posttoday

Formula One เตรียมปรับการแข่งขัน ให้รถมอเตอร์สปอร์ตขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน

08 ธันวาคม 2566

สหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) ร่วมกับ Extreme H เตรียมตั้งทีมประเมินศักยภาพเทคโนโลยีไฮโดรเจนที่จะนำมาใช้ในการแข่ง “Formula One” ซึ่งจะเป็นการแข่งรถมอเตอร์สปอร์ตชิงแชมป์โลกด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เดิม Extreme E เป็นรายการแข่งขันขับรถวิบากด้วยรถ SUV พลังงานไฟฟ้า ซึ่ง FIA อนุมัติให้แข่งขันเป็นครั้งแรกในปี 2021 โดย Lewis Hamilton ยอดนักขับรวมถึงยังเป็นแชมป์โลก Formula One เป็นหนึ่งในผู้ที่ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันในรายการ  Extreme E เพื่อช่วยรณรงค์และสร้างความตระหนักต่อวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

อย่างไรก็ตามรายการดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Extreme H ซึ่งจะเป็นการรายการแข่งขันรถมอเตอร์สปอร์ตชิงแชมป์โลกด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมีแผนจะปรับใช้ระบบเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในปี 2025

Pat Symonds ผู้บริหารสูงสุดด้านการพัฒนาเทคโนโลยี (CTO) ของ Formula One กล่าวว่า “นับเป็นธรรมเนียมปกติที่การแข่งขันของเราจะนำเทคโนโลยีใหม่ในระดับแนวหน้าออกสู่สายตาสาธารณชน”

“และเพื่อบรรเทาวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate change ทาง Formula One มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความยั่งยืน เราจึงจำเป็นต้องลดการปล่อยคาร์บอนลงในทุกภาคส่วนของการแข่งขัน ซึ่งรวมถึงการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอน การใช้พลังงานไฟฟ้า และไฮโดรเจน”

การแข่งขัน Formula One ตั้งเป้าที่จะนำเชื้อเพลิงแบบยั่งยืนมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ100% ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป รวมถึงตั้งเป้าบรรลุ net zero ภายในปี 2030

สำหรับคณะทำงานชุดใหม่จะมีตัวแทนจากทั้ง Formula One, Extreme E, และ FIA โดยมีจุดมุ่งหมายหลักคือติดตามความก้าวหน้าและการพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนสำหรับเซลล์เชื้อเพลิง ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ในการขับเคลื่อนตัวรถ

นอกจากนี้ การแข่งขัน “24 Hours of Le Mans” ซึ่งเป็นรายการแข่งรถแบบข้ามคืนยังเล็งนำไฮโดรเจนมาใช้ในการแข่งขันตั้งแต่ปี 2026 เช่นกัน โดยระบบขับเคลื่อนของตัวรถจะใช้เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง หรือเครื่องยนต์สันดาปที่ขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน รวมถึงตั้งเป้าให้การแข่งขันทุกประเภทขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนทั้งหมดภายในปี 2030

ทั้งนี้ คาดว่ารายการแข่งขันรถมอเตอร์สปอร์ตด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนหรือ  Extreme H คาดว่าจะเริ่มทดสอบเต็มรูปแบบในช่วงต้นปี 2024 โดยทาง FIA จะเป็นผู้ดูแลกฎระเบียบทางเทคนิคและความปลอดภัยทั้งหมด