ตลาดหุ้นสหรัฐขยับสูงขึ้นจากราคาผู้ผลิตที่ผ่อนคลาย

หุ้นของ Target เพิ่มขึ้น 17.4% ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่าสี่ปีเนื่องจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่คาดการณ์กำไรในไตรมาสที่สี่ซึ่งสูงกว่าความคาดหมายอย่างมากจากการลดต้นทุนห่วงโซ่อุปทาน

แนวโน้มดังกล่าวช่วยกระตุ้นราคาหุ้นของผู้ค้าปลีกรายอื่นรวมถึง Macy's และ Kohl's ด้วย

หุ้นปรับตัวขึ้นในวันอังคารหลังจากการอ่านดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่อ่อนตัวกว่าที่คาดส่งผลให้มีทัศนคติเชิงบวกว่าเฟดอาจสามารถหลีกเลี่ยงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปได้

ข้อมูลเพิ่มเติม แสดงให้เห็นว่าต้นทุนผู้ผลิตลดลงมากที่สุดในรอบ 3-1/2 ปีในเดือนตุลาคม โดยเป็นผลจากราคาน้ำมันเบนซินที่ถูกลง ซึ่งเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันด้านราคาที่ผ่อนคลายลง

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 175.43 จุดหรือ 0.5% ปิดที่ 35,003.13 จุด, S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 13.96 จุดหรือ 0.31% ที่ 4,509.66 จุด และ Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น 31.97 จุดหรือ0.23% อยู่ที่ 14,126.35 จุด

ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 1.5% ในวันพุธจากการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ และการผลิตที่สูงเป็นประวัติการณ์ในผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก ควบคู่ไปกับความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอุปสงค์ในเอเชีย

สัญญาซื้อขายเบรนท์ฟิวเจอร์สตกลง 1.29 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 81.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบWest Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐ ร่วงลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 2% อยู่ที่ 76.66 ดอลลาร์

ด้านราคาทองคำทรงตัวในวันพุธ โดยได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น แต่ความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเสร็จสิ้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้ราคาต่ำกว่าระดับปกติ

ราคาทองคำสปอตร่วงลง 0.1% สู่ระดับ 1,960.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์  และราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯลดลง 0.1% อยู่ที่ 1,964.30 ดอลลาร์