ผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์ เร่งตัดแร่หายากออกจากการผลิต EV

ต่อไปนี้คือรายการผลิตภัณฑ์บางส่วน ที่ผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์กำลังวิจัย หรือดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ในการลดการใช้แร่หายากในกระบวนการผลิต EV

เทสลา  

ในตอนแรก Tesla ใช้มอเตอร์เหนี่ยวนำที่ไม่มีแม่เหล็กถาวรชนิดแรร์เอิร์ธ แต่ได้เปลี่ยนไปใช้มอเตอร์แม่เหล็กถาวรสำหรับรุ่น 3 ในปี 2560

ผู้ผลิต EV รายใหญ่ที่สุดในโลกกล่าวเมื่อต้นปีนี้ว่าได้ลดปริมาณแร่หายากลง 25% ต่อคัน และตั้งเป้าที่จะเลิกใช้แร่หายากในรถยนต์ EV เจเนอเรชั่นถัดไป

บีเอ็มดับเบิลยู (BMW)

ปัจจุบัน BMW ไม่ใช้แม่เหล็กถาวรแบบแรร์เอิร์ธ และได้พัฒนาเครื่องมอเตอร์ซิงโครนัสแบบโรเตอร์พันขดลวด (WRSM; wound rotor synchronous motor) หรือเรียกอีกอย่างว่า มอเตอร์ซิงโครนัสแบบกระตุ้นภายนอก (EESM; externally excited synchronous motor) จะมีโรเตอร์ที่พันด้วยขดลวดที่สามารถป้อนไฟฟ้ากระแสตรงเข้าไปเพื่อสร้างสนามแม่เหล็กแทนการใช้แม่เหล็กถาวร ซึ่งสร้างสนามแม่เหล็กโดยใช้กระแสไฟฟ้า ซึ่งจะรวมอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นถัดไปทั้งหมด

เจเนอรัล มอเตอร์ส (GM)

ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของสหรัฐฯ กล่าวว่า "กำลังสำรวจทางเลือกในการจำกัดหรือกำจัดวัสดุหายากในมอเตอร์ไฟฟ้า"

บริษัทเพิ่งลงทุนใน Niron Magnetics ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาแม่เหล็กถาวรที่ไม่มีธาตุหายาก ควบคู่ไปกับผู้ผลิตรถยนต์คู่แข่งอย่าง Stellatis, Volvo Cars  

Renault 

Renault ใช้มอเตอร์ Vitesco EESM EV ในรุ่น Zoe และ Kangoo ตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2562 และกำลังพัฒนามอเตอร์ EV ไร้ธาตุหายากร่วมกับ Valeo ที่จะเข้าสู่การผลิตในปี 2570 โฆษกของ Renault กล่าวว่า "สิ่งต่าง ๆ ยังคงดำเนินต่อไป โครงการร่วมกำลังก้าวหน้าไปด้วยดี”  

นิสสัน  

นิสสัน ได้พัฒนามอเตอร์ EESM EV สำหรับรถครอสโอเวอร์ Ariya และกำลังดำเนินการตามกลยุทธ์ใช้มอเตอร์ EESM แบบคู่ และค่อยๆ ตัดแร่หายากออกจากมอเตอร์แม่เหล็กถาวร

เมอร์เซเดส-เบนซ์  

เมอร์เซเดส ได้ลดปริมาณแร่หายากในแพลตฟอร์ม MMA EV รุ่นต่อไปให้เหลือ "เกือบ 0%" ผู้ผลิตรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมสัญชาติเยอรมันรายนี้กล่าวว่ามีเป้าหมายที่จะกำจัดแร่หายากโดยสิ้นเชิง

โตโยต้า 

โตโยต้ากำลังพัฒนาแม่เหล็กถาวรที่มีนีโอไดเมียมซึ่งเป็นธาตุหนักที่หายากลดลง 50%