ทหารผ่านศึก LGBTQ ฟ้องกองทัพสหรัฐฯ ฐานปลดประจำการไม่เป็นธรรม
ทหารผ่านศึก LGBTQ ฟ้องร้องคดีใหม่ต่อกองทัพสหรัฐฯ โดยชี้ว่าทางกองทัพเลือกปฏิบัติต่อทหารผ่านศึกมากถึง 35,000 คน โดยไม่ให้พวกเขาได้รับการปลดประจำการอย่างมีเกียรติจากเหตุผลด้านรสนิยมทางเพศ
ทหารผ่านศึก LGBTQ 5 ราย ได้ยื่นดำเนินคดีแบบกลุ่มต่อศาลรัฐบาลกลางซานฟรานซิสโก เพื่อขอให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยกระดับทหารผ่านศึกให้ปลดประจำการอย่างมีเกียรติ และลบข้อมูลเรื่องรสนิยมทางเพศออกจากเอกสารทางทหาร
ที่ผ่านมา นโยบายของเพนตากอนซึ่งประกาศใช้ในปี 1993 หรือที่ถูกเรียกว่ากฎหมาย “ห้ามถาม ห้ามบอก (Don't Ask, Don't Tell)” ซึ่งเป็นนโยบายที่ห้ามเกย์ เลสเบี้ยน และไบเซ็กชวลที่เปิดเผยตัวเข้ารับราชการทหาร และสามารถปลดประจำการทหารนายนั้นได้หากทราบในภายหลังว่าเป็นกลุ่ม LGBTQ
แม้จะมีการยกเลิกนโยบายนี้ไปแล้วตั้งแต่ปี 2011 แต่ภายใต้นโยบายนี้มีนายทหารราว 14,000 คนถูกปลดออกจากราชการ ขณะที่หากนับตั้งแต่ปี 1980 มีนายทหารกว่า 20,000 คน ที่ถูกปลดประจำการจากรสนิยมทางเพศที่แท้จริง
การปลดประจำการในระดับ Other-Than-Honorable นับการลงโทษขั้นสูงสุดของทางกองทัพ ซึ่งหากถูกปลดประจำการในระดับนี้จะทำให้นายทหารนายนั้นไม่มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่างๆ รวมถึงการรักษาพยาบาล เงินกู้ โอกาสในการทำงาน และความช่วยเหลือด้านค่าเล่าเรียน
โดยด้านโจทก์ในคดี กล่าวว่าการคงสถานะของทหารผ่านศึกที่ถูกปลดภายใต้กฎหมาย “ห้ามถาม ห้ามบอก (Don't Ask, Don't Tell)” เป็นการละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญของพวกเขารวมถึงสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกันตามที่พวกเขาสมควรจะได้รับ
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวร้องขอให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการตรวจสอบการปลดประจำการอย่างครอบคลุมตามรสนิยมทางเพศ และให้ดำเนินการปลดประจำการอย่างมีเกียรติตามความเหมาะสม