น้ำท่วมเกาหลีใต้สะท้อนการเตรียมการต่อสู้ภาวะอากาศสุดขั้วยังไม่เพียงพอ

ในช่วงไม่ถึงสัปดาห์ ประชาชนในเกาหลีใต้เสียชีวิตจากเหตุฝนตกหนักไปแล้วอย่างน้อย 40 ราย ซึ่งรวมถึงบรรดาผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในอุโมงค์ใต้ดินเมืองชองจูอีก 14 ราย ทำให้หลายฝ่ายเกิดความสงสัยต่อแนวทางรับมือของประเทศต่อวิกฤตฝนตกหนักในหลายพื้นที่

ฝั่งผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า คำมั่นสัญญาของเกาหลีใต้ว่าด้วยการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือสภาพอากาศสุดขั้วนั้นยังไม่มีการจัดสรรงบที่ชัดเจน ขณะที่การใช้จ่ายมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมมากกว่าจะใช้จ่ายไปกับการป้องกันภัยพิบัติ

Jeong Chang-sam ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมแห่งมหาวิทยาลัย Induk ในกรุงโซลซึ่งเชี่ยวชาญด้านการจัดสรรทรัพยากรน้ำระบุว่า การหาแนวทางเพื่อป้องกันภัยพิบัติถือเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสียหายและลดการสูญเสียชีวิตให้น้อยที่สุด แต่มักถูกละเลยไปเพราะผลประโยชน์ทางการเมือง นอกจากนี้การใช้งบไปกับโครงการเพื่อป้องกันภัยพิบัติยังมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าโครงการเพื่อการฟื้นฟูกว่าครึ่ง

ประธานาธิบดี ยุน ซุก ยอล ยังได้สะท้อนคำเรียกร้องของเขาเมื่อปีที่แล้ว เมื่อกรุงโซลต้องเผชิญฝนตกหนักที่สุดในรอบ 115 ปี จนทำให้ย่านการค้าเป็นอัมพาต ขณะที่พื้นที่ลุ่มต่ำอย่างกังนัมเกิดน้ำท่วมขัง

ประธานาธิบดี ยุน กล่าวว่า “สภาพอากาศสุดขั้วกำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นเราต้องดำเนินการเพื่อจัดการสถานการณ์นี้ให้เป็นเรื่องปกติเช่นกัน เราต้องหยุดความคิดว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้ท่ามกลางวิกฤตภัยพิบัติทางธรรมชาติ” 

ตามการระบุของกระทรวงมหาดไทย ทางการให้คำมั่นว่าจะใช้งบประมาณไปกับการป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติให้มากขึ้น หลังจากในปี 2022 ประเทศได้ใช้จ่ายไปกับโครงการนี้กว่า 2 ล้านล้านวอนแล้ว

การศึกษาในปี 2020 โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลีพบว่าความเสียหายต่อทรัพย์สินและการสูญเสียจากสภาพอากาศสุดขั้ว มีอัตราเพิ่มขึ้นสามเท่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรายปีของทศวรรษก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม Jung Ki-cheol วิศวกรชลประทานแห่งสถาบันสิ่งแวดล้อมเกาหลีกล่าวว่า แม้ปริมาณฝนเฉลี่ยต่อปีในช่วง 2021-2040 จะไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหตุการณ์ฝนตกหนักที่เกาหลีใต้กำลังเผชิญคาดว่าเป็นผลสืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นอกจากนี้ Lee Su-gon อดีตศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมโยธาแห่งมหาวิทยาลัยโซลยังให้ความเห็นว่า ในเกาหลีใต้นั้น มีสถานที่มากกว่า 1 ล้านแห่งที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม แต่มีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นที่ได้รับการตรจสอบจากทางการ