พนักงานสตาร์บัคส์ในสหรัฐนัดหยุดงานกรณีพิพาทการตกแต่งร้านช่วง Pride Month

สหภาพแรงงานสตาร์บัคส์เสริมว่า การนัดหยุดงานยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อผลักดันให้บริษัทบรรลุสัญญาจ้างแรงงานที่เป็นธรรมเพื่อค่าจ้างและสวัสดิการที่ดีขึ้น  ขณะที่บริษัทยังไม่บรรลุข้อตกลงการเจรจาต่อรองใดๆ ที่ร้านกาแฟที่เปิดใหม่

หุ้นของสตาร์บัคส์ซึ่งมีสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของในสหรัฐฯ ราว 9,000 แห่ง ร่วงลงมากกว่า 2.5% 

การนัดหยุดงานมีขึ้นก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับการเฉลิมฉลอง Pride Month ของสหรัฐฯ โดยขบวนพาเหรดจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ในเมืองใหญ่หลายแห่ง รวมถึงนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก ซีแอตเทิล และชิคาโก

สหภาพแรงงานอ้างว่าผู้จัดการของสตาร์บัคส์หลายสิบแห่งขัดขวางไม่ให้พนักงานติดธงและเครื่องประดับPride Month หรือถอดธงเหล่านั้นออก

เมื่อวันศุกร์ สตาร์บัคส์เรียกการอ้างสิทธิ์ว่าเป็น "ข้อมูลเท็จ" เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้" และยังคงสนับสนุนให้ผู้จัดการร้านเฉลิมฉลอง Pride Month ตราบเท่าที่ปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัยของร้าน

แบรนด์ค้าปลีกหลายแห่งของสหรัฐฯ เผชิญกับกระแสต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับการจัดแสดงสินค้าLGBTQ+ ตลอดจนคำวิจารณ์จากกลุ่มสิทธิเกย์ที่ให้การสนับสนุนชุมชนไม่เพียงพอ หลังจากที่บริษัทยอมลดละภายใต้แรงกดดันจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม

Target ผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯ ถูกบังคับให้ต้องดึงสินค้า Pride ออกจากชั้นวางหลังจากการเผชิญหน้าระหว่างผู้ซื้อและพนักงานร้านค้าในขณะที่ความพยายามของ Anheuser-Busch InBev ในการทำตลาดกับชุมชนคนข้ามเพศทำให้ลดลงอย่างมาก ในการขายเบียร์ Bud Light ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

กลุ่มผู้ถือหุ้นกำลังวิตกกังวลกับประเด็นนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน โทมัส ดินาโปลี ผู้ควบคุมบัญชีแห่งรัฐนิวยอร์กผู้บริหารกองทุนบำเหน็จบำนาญสาธารณะของรัฐ ได้เขียนจดหมายถึงสตาร์บัคส์ ทาร์เก็ต และบริษัทอื่นๆ อีกกว่า 50 แห่งที่นำเงินไปลงทุน

DiNapoli ขอให้พวกเขาอธิบายว่าพวกเขาจัดการความเสี่ยงขององค์กรจากการโจมตีเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับความเท่าเทียมของ LGBTQ+ ได้อย่างไร รวมถึงแนวทางของพวกเขาในการออกกฎหมายของรัฐที่อาจส่งผลเสียต่อการจัดหางาน และวิธีที่พวกเขาสนับสนุนพนักงาน LGBTQ+