Climate change ทำพิษ ไฟป่าแคนาดาวิกฤตสุดในประวัติศาสตร์
ไฟป่าแคนาดาวิกฤต! พื้นที่ 3.3 ล้านเฮกตาร์ถูกเผาวอด เสียหายมากสุดในประวัติศาสตร์จากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งผิดปกติ
Michael Norton เจ้าหน้าที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของแคนาดา ให้ความเห็นว่า “ในปีนี้ การกระจายตัวของไฟป่าจากฟากหนึ่งไปยังอีกฟากหนึ่งของประเทศถือเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งโดยปกติแล้วในช่วงเวลานี้ของปี ไฟป่าส่วนใหญ่มักจะเกิดในฝั่งตะวันตกมากกว่า”
ไฟป่าได้ลุกไหม้พื้นที่เกือบทั้งหมดของแคนาดา ขณะที่เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลกลางระบุว่าแบบจำลองชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ไฟป่าอาจเพิ่มขึ้นลากยาวไปจนถึงเดือนสิงหาคม
เมืองควิเบก ทางตะวันออกของแคนาดา ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในขณะนี้ สืบเนื่องมาจากเหตุฟ้าผ่าหลายครั้งจนทำให้ไฟไหม้พื้นที่ป่า ส่วนอัตราพื้นที่ที่ถูกเผาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งหากอัตรานี้ยังคงดำเนินต่อไป แคนาดาอาจมีพื้นที่ที่ถูกเผาไหม้จากไฟป่ามากสุดในประวัติศาสตร์
ส่วนทางฝั่งตะวันออกของแคนาดา เปลวเพลิงยังลุกลามอย่างรวดเร็วเช่นกัน จนประชาชนในโนวาสโกเชียในมหาสมุทรแอตแลนติกต้องเร่งอพยพ เช่นเดียวกับเมืองทางชายฝั่งควิเบก
Yan Boulanger นักวิจัยจาก Natural Resources Canada กล่าวว่า "ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยเห็นพื้นที่ที่ถูกทำลายจากไฟป่าเป็นวงกว้างขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (climate change) และแนวโน้มพื้นที่ที่จะถูกเผาวอดยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วแคนาดา”
ตัวเลขจากวันอาทิตย์แสดงให้เห็นว่ามีพื้นที่ประมาณ 3.3 ล้านเฮกตาร์ที่ถูกเผาไปแล้ว ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี ราว 13 เท่า และประชาชนอย่างน้อย 120,000 คนถูกบังคับให้อพยพชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ยังได้กล่าวในงานแถลงข่าวโดยระบุว่า “ขณะนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวสำหรับใครหลายคน เมื่อพวกเขาต้องสูญเสียบ้าน มันไม่ใช่แค่เรื่องของทรัพย์สินเท่านั้น แต่พวกเขายังสูญเสียสถานที่พิเศษที่สามารถเห็นลูกๆของพวกเขาเติบโตขึ้น สถานที่ที่พวกเขาสร้างชีวิตใหม่”
ทั้งนี้ ในแคนาดา ไฟป่า นับเป็นภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายเป็นอันดับ 2 รองจากอุทกภัย และปัจจุบันมีไฟป่าเกิดขึ้นกว่า 413 จุด โดย 249 จุดยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และประชาชนราว 26,000 คนยังอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ