กระทรวงการคลังยืนยันสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย.
กระทรวงการคลังสหรัฐย้ำเมื่อวันจันทร์ว่าจะสามารถชำระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐได้ถึงวันที่ 1 มิถุนายนเท่านั้นหากไม่มีการเพิ่มวงเงินหนี้ ทำให้เหลือเวลาอีกเพียง 10 วันสำหรับการเจรจาของทำเนียบขาวและพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสในการบรรลุข้อตกลง
ในจดหมายฉบับที่สามของเธอถึงสภาคองเกรสในรอบสามสัปดาห์ รัฐมนตรีคลัง เจเน็ต เยลเลนกล่าวว่า "มีความเป็นไปได้สูง" ที่หน่วยงานดังกล่าวไม่น่าจะปฏิบัติตามข้อผูกพันการชำระเงินของรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งหมดได้ภายในต้นเดือนมิถุนายน และอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 1 มิถุนายน หากไม่มีการดำเนินการของรัฐสภาที่จะยกระดับ เพดานหนี้ที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรก
"ด้วยข้อมูลเพิ่มเติมในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่มีอยู่ในขณะนี้ ฉันเขียนจดหมายถึงพวกเราเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเราประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูงที่กระทรวงการคลังจะไม่สามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันทั้งหมดของรัฐบาลได้อีกต่อไป หากสภาคองเกรสไม่ดำเนินการเพื่อเพิ่มหรือระงับวงเงินหนี้ภายใน ต้นเดือนมิถุนายน และอาจเร็วที่สุดในวันที่ 1 มิถุนายน” เธอกล่าว
เยลเลนกล่าวว่า ประมาณการซึ่งสอดคล้องกับจดหมายฉบับล่าสุดของเธอที่ส่งถึงสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 15 พ.ค. นั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ใบเสร็จรับเงิน ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของรัฐบาลกลางยังคงแตกต่างกันไป เธอกล่าวว่าเธอจะอัปเดตสภาคองเกรสเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งบินกลับมาเอเชียเพื่อเจรจาข้อตกลงเพดานหนี้ จะพบกับเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาพรรครีพับลิกันในเวลา 17.30 น. หลังจากผู้ช่วยของพวกเขาพบกันนานกว่า 2 ชั่วโมงในวันจันทร์
เยลเลนเตือนหลายครั้งว่าความล้มเหลวของสภาคองเกรสในการเพิ่มวงเงินกู้ยืมของรัฐบาลกลางจะก่อให้เกิด "หายนะทางเศรษฐกิจและการเงิน" สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทั่วโลก
เธอกล่าวว่าต้นทุนการกู้ยืมของกระทรวงการคลังได้เพิ่มขึ้น และเรียกร้องให้สภาคองเกรสดำเนินการโดยเร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการผิดนัดชำระหนี้
"เราได้เรียนรู้จากขีดจำกัดของหนี้ในอดีตว่าการรอจนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อระงับหรือเพิ่มวงเงินกู้อาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจและผู้บริโภค เพิ่มต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นสำหรับผู้เสียภาษี และส่งผลเสียต่ออันดับเครดิตของสหรัฐด้วย ” เธอเขียน