สหรัฐฯ เตรียมลงนามข้อตกลงทางยุทธศาสตร์กับ 2 รัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก

Joseph Yun ทูตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เจรจาข้อตกลงดังกล่าว เปิดเผยว่าข้อตกลงปาเลาจะได้รับการลงนามอย่างเป็นทางการต่อหน้านาย Antony Blinken รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ และประธานาธิบดี Surangel Whipps Jr. ของปาเลาในปาปัวนิวกินีในวันจันทร์นี้ ขณะที่สนธิสัญญาไมโครนีเซียจะลงนามในวันอังคารที่ไมโครนีเซีย

หยุนเริ่มต้นข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของสหรัฐฯ ในการเสริมการสนับสนุนระหว่างรัฐในหมู่เกาะแปซิฟิกเพื่อต่อต้านการแข่งขันจากจีน ระหว่างการเยือนไมโครนีเซียและปาเลาในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เขายังไม่สามารถสรุปข้อตกลงกับหมู่เกาะมาร์แชลได้ตามคาด

“เรามีความคืบหน้าในการเยือนหมู่เกาะมาร์แชลล์ 3 วันของผม และเราหวังว่าจะลงนามในข้อตกลงกับหมู่เกาะมาร์แชลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” เขากล่าว

วอชิงตันบรรลุสิ่งที่เรียกว่าข้อตกลงของสมาคมอิสระ (COFA) เป็นครั้งแรก ซึ่งสอดคล้องกับรัฐที่เป็นเกาะทั้งสามแห่งในทศวรรษที่ 1980 ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบในการป้องกันและให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจในขณะที่ได้รับเอกสิทธิ์ในการเข้าถึงพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่ของมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นการตอบแทน

การต่ออายุข้อตกลงนี้ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของความพยายามของสหรัฐฯ ในการผลักดันการต่อต้านความเคลื่อนไหวของจีนในการขยายอิทธิพลในมหาสมุทรแปซิฟิก นักการทูตจีนเข้ามาเจรจาในภูมิภาคนี้ และบริษัทก่อสร้างและเหมืองแร่ของจีนก็ขยายธุรกิจไปยังประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกหลายแห่ง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ มีกำหนดจะเข้าร่วมพิธีลงนามที่เมืองพอร์ตมอร์สบี แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้สั่งงดกำหนดการที่นั่นเนื่องจากวิกฤตเพดานหนี้ของสหรัฐฯ

Blinken จะเป็นผู้ดำเนินการแทนและลงนามในข้อตกลงการป้องกันทวิภาคีและความมั่นคงทางทะเลกับ PNG และพบปะกับผู้นำของ Pacific Islands Forum ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของ Biden กล่าวเมื่อวันพุธว่าประธานาธิบดีจะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำหมู่เกาะแปซิฟิกอีกครั้งในปีนี้หลังจากความผิดหวังที่เกิดจากการยกเลิกกำหนดการของเขา

Yun กล่าวว่าไมโครนีเซียต้องการทำข้อตกลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับดินแดนบ้านเกิด ก่อนหน้านี้เขากล่าวว่าทั้งปาเลาและไมโครนีเซียจะลงนามใน COFA ในภาษา PNG

COFA ของหมู่เกาะมาร์แชลล์มีกำหนดหมดอายุในปีนี้ Yun ไม่ได้ให้เหตุผลในการระงับการต่ออายุ แต่คาดว่าจะมีการเลือกตั้งรัฐสภาในเดือนพฤศจิกายน

Yun กล่าวว่าข้อตกลง "topline" เมื่อเดือนที่แล้วจะช่วยให้ COFA สามรัฐมีมูลค่ารวมประมาณ 6.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 20 ปี

ปีที่แล้ว กลุ่มควบคุมอาวุธ สิ่งแวดล้อม และกลุ่มเคลื่อนไหวอื่นๆ มากกว่า 100 กลุ่มเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของBiden ขอโทษอย่างเป็นทางการต่อหมู่เกาะมาร์แชลล์สำหรับผลกระทบของการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ที่นั่น และให้ค่าชดเชยที่ยุติธรรม

ชาวเกาะมาร์แชลล์ยังคงได้รับผลกระทบจากสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ 67 ครั้งตั้งแต่ปี 2489 ถึง 2501 ซึ่งรวมถึง "Castle Bravo" ที่เกาะบิกินี่ในปี 2497 ซึ่งเป็นระเบิดที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ที่เคยระเบิด