posttoday

ประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรียเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาหรับ

20 พฤษภาคม 2566

ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียเดินทางไปซาอุดีอาระเบียเมื่อวันศุกร์เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาหรับ ซึ่งเขาจะได้กระทบไหล่กับผู้นำที่รังเกียจเขามานานหลายปีในการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ของโลกอาหรับที่ถูกต่อต้านโดยสหรัฐฯ และมหาอำนาจตะวันตกอื่นๆ

หลังจากถูกกีดกันโดยรัฐอาหรับส่วนใหญ่หลังการปราบปรามการประท้วงต่อต้านการปกครองของเขาในปี2554 และสงครามกลางเมืองที่ตามมาหลังจากนั้น ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 350,000 คน การเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มผู้นำอาหรับอีกครั้งเป็นสัญญาณว่าการถูกโดดเดี่ยวของอัสซาดกำลังสิ้นสุดลง

 

ก่อนการประชุมสุดยอดอาหรับครั้งนี้ สหรัฐฯ ได้ออกมาย้ำการต่อต้านการปรับความสัมพันธ์กับซีเรียสู่ระดับเป็นปกติ

 

“เราไม่เชื่อว่าซีเรียควรจะกลับเข้าสู่สันนิบาตอาหรับอีกครั้ง” เวแดนท์ พาเทล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวอชิงตัน พร้อมเสริมว่าไม่ควรยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรใดๆต่อซีเรีย

 

"เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการทำให้เป็นมาตรฐาน เราไม่สนับสนุนการทำให้เป็นมาตรฐานกับระบอบการปกครองของอัสซาด และเราไม่สนับสนุนให้พันธมิตรของเราทำเช่นนั้น"

 

แต่พาเทลเสริมว่า "เรามีเป้าหมายร่วมกัน(กับซีเรีย)หลายอย่าง" เช่น การนำออสติน ทิซ อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ และนักข่าวกลับบ้าน ซึ่งถูกลักพาตัวในซีเรียเมื่อปี 2555

 

นับเป็นจุดพลิกผันอันน่าทึ่งสำหรับผู้นำซีเรีย ซึ่งขณะนั้นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตราหน้าว่าเป็น "สัตว์" สำหรับกรณีการใช้อาวุธเคมีในการสู้รบกับฝ่ายต่อต้านเมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่เขาปฏิเสธมาโดยตลอด

 

กองกำลังของรัฐบาลใช้อาวุธเคมีมากกว่า 20 ครั้งในช่วงสงครามกลางเมืองในซีเรีย เจ้าหน้าที่สืบสวนอาชญากรสงครามของสหประชาชาติระบุ แต่ซีเรีย็ปฏิเสธข้อกล่าวหาการใช้อาวุธเคมีดังกล่าว

 

 

กลุ่มส.ส.จากทั้งสองพรรคของสหรัฐฯ เสนอร่างกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อขัดขวางการยอมรับอัสซาดในฐานะประธานาธิบดีซีเรียของสหรัฐฯ และเพิ่มขีดความสามารถของวอชิงตันในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตร

 

การหวนคืนสู่กลุ่มอาหรับของอัสซาดเป็นส่วนหนึ่งของกระแสที่เปิดกว้างขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งบรรดาชาติปรปักษ์ได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขความสัมพันธ์ที่เป็นปฏิปักษ์จากความขัดแย้งและการแข่งขันที่ยืดเยื้อมานานหลายปี

 

ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และประเทศอื่นๆ สนับสนุนกลุ่มกบฏที่ต่อต้านอัสซาดมานานหลายปี แต่กองทัพของซีเรียซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียและอิหร่าน กลับเข้าควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศได้อีกครั้งเมื่อหลายปีก่อน

 

ในขณะที่กลุ่มประเทศอาหรับดูเหมือนจะนำอัสซาดเข้ามายังเวทีความสัมพันธ์อีกครั้ง แต่พวกเขายังคงเรียกร้องให้เขาควบคุมการค้ายาเสพติดที่เฟื่องฟูของซีเรีย และอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยสงครามกลับประเทศได้

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี