ไบเดนใช้อำนาจยับยั้งมติครั้งแรก ป้องกฎการลงทุน ESG

ในวิดีโอที่โพสต์บนทวิตเตอร์ ไบเดนกล่าวว่า “ผมเพิ่งลงนามยับยั้งในครั้งนี้เพราะกฎหมายที่ผ่านโดยสภาคองเกรสจะทำให้เงินออมเพื่อการเกษียณอายุของบุคคลทั่วประเทศมีความเสี่ยง”

ร่างกฎหมายผ่านสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 1 มีนาคม เมื่อวุฒิสภาลงมติด้วยคะแนนเสียง 50-46 ให้ใช้มาตรการคว่ำกฎกระทรวงแรงงาน ทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถพิจารณาเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG รวมถึงประเด็นสำหรับการลงทุนและการตัดสินใจเรื่องสิทธิของผู้ถือหุ้น เช่นใช้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ง่ายขึ้น

ผลลัพธ์ดังกล่าวกลายเป็นสิ่งเน้นย้ำถึงความตั้งใจของพรรครีพับลิกันที่จะต่อต้านพันธมิตรดั้งเดิมของพวกเขาในวอลล์สตรีทและองค์กรอเมริกาที่รับเอาสิ่งที่ฝ่ายนิติบัญญัติระบุว่าเป็นแนวทางแบบเสรีนิยมที่ "ตื่นตัว"

พรรครีพับลิกันอ้างกฎซึ่งครอบคลุมแผนการร่วมลงทุนกว่า 12 ล้านล้านดอลลาร์ในนามของชาวอเมริกัน 150 ล้านคน ซึ่งจะทำให้การลงทุนกลายเป็นเรื่องการเมืองจากการอนุญาตให้ผู้จัดการดำเนินงานตามแนวทางเสรีนิยม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อด้านการเงิน

Kevin McCarthy ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันกล่าวใน แถลงการณ์ว่า “เป็นที่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีไบเดนต้องการให้วอลล์สตรีทใช้เงินที่ประชาชนหามาอย่างยากลำบาก ไม่ใช่เพื่อเพิ่มเงินออม แต่เพื่อใช้เป็นทุนสำหรับวาระทางการเมืองแบบซ้ายจัด สิ่งนี้จะทำร้ายผู้สูงวัยและคนทำงาน”

ขณะที่ Chuck Schumer ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภากล่าวหาว่าพรรครีพับลิกันแทรกแซงการตัดสินใจในการลงทุน ทั้งยังเสริมว่ารีพับลิกันยัดเยียดความเห็นส่วนตัวให้กับบริษัทต่างๆรวมถึงนักลงทุน