ธนาคารกลางสวิสให้คำมั่นจะสนับสนุน Credit Suisse หลังหุ้นร่วงหนัก

ในแถลงการณ์ร่วมกับหัวหน้างาน FINMA พวกเขาประกาศขั้นตอนที่ชัดเจน แต่ยืนยันว่า Credit Suisse มีความมั่นคงและ "เป็นไปตามข้อกำหนดด้านเงินทุนและสภาพคล่องที่กำหนดในธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบ"

การเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนธนาคาร Credit Suisse ด้วยการให้กู้ยืมเงินของธนาคารกลาง ได้รับการออกแบบเพื่อยับยั้งวิกฤตความเชื่อมั่นของผู้ให้กู้รายใหญ่อันดับสองของสวิตเซอร์แลนด์

หุ้นของธนาคาร Credit Suisse ร่วงลงมากกว่า 30% ในวันพุธ หลังจากความวุ่นวายหลายเดือน รัฐบาลประเทศต่างๆ รวมถึงภาคการธนาคาร กดดันให้ทางการสวิตเซอร์แลนด์ ต้องเข้าแทรกแซง

SNB และ FINMA พยายามที่จะสร้างความเชื่อมั่นในธนาคาร โดยกล่าวว่า "ไม่มีข้อบ่งชี้ถึงความเสี่ยงโดยตรงของการได้รับผลกระทบต่อเนื่องสำหรับธนาคารในสวิส จากความวุ่นวายในปัจจุบันในตลาดการธนาคารของสหรัฐฯ"

ธนาคาร Credit Suisse จะเป็นธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบทั่วโลกแห่งแรก ที่ได้รับความช่วยเหลือลักษณะนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับสภาพคล่องที่ธนาคารกลางเสนอให้กับภาคการเงินโดยทั่วไปในช่วงเวลาที่ตลาดตึงเครียดมาก เช่น เมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะล็อกดาวน์เพื่อต่อสู้กับโควิด-19

หุ้นใน Credit Suisse ซึ่งกำลังต่อสู้เพื่อฟื้นตัวจากเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ได้พุ่งขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หุ้นมีมูลค่าประมาณ 80 ฟรังก์สวิสในปี 2551 แต่ลดลงเหลือ 1.55 ฟรังก์สวิสในวันพุธ

ปัญหารอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของธนาคาร คือ Saudi National Bank กล่าวว่าไม่สามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติมตามที่ร้องขอได้ 

Credit Suisse กำลังอยู่ระหว่างการยกเครื่องครั้งใหญ่ ลดค่าใช้จ่ายและงาน และสร้างธุรกิจแยกต่างหากสำหรับวาณิชธนกิจ

สำหรับ Credit Suisse เป็นธนาคารระดับโลกที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1856 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซูริก และมีสำนักงานอยู่ในศูนย์การเงินหลักทุกแห่งทั่วโลก ถือเป็นหนึ่งในธนาคารขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อการเงินโลก แต่ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี นับตั้งแต่ปี 2015 ต่อเนื่องมาปี 2016 สาเหตุมาจากการตัดหนี้สูญของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ที่เป็นผลพวงมาจากวิกฤต subprime ปี 2008 และ euro debt crisis ในปี 2009 และล่าสุดจากกรณี Archegos Capital จากการไปร่วมปล่อยกู้ Margin Loan เพื่อให้ Hedge Fund รายนี้ไปลงทุนแต่ประสบปัญหาขาดทุนหนัก จนกระทบต่อผลประกอบการของธนาคาร เมื่อเกิดวิกฤติภาคธนาคาร จากการล่มสลายของ Silicon Valley Bank ในสหรัฐ จึงถูกจับตามองว่าจะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ เมื่อราคาหุ้นของธนาคารร่วงหนักจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน จึงส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก