posttoday

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดดิ่งหนักสุดในรอบปี นักลงทุนวิตกจากแนวโน้มดอกเบี้ย

22 กุมภาพันธ์ 2566

ตลาดหุ้นสหรัฐรายงานผลการดำเนินงานที่แย่ที่สุดของปีเมื่อวันอังคาร โดยนักลงทุนตีความจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯในเดือน ก.พ. ซึ่งหมายความว่าอัตราดอกเบี้ยจะต้องอยู่ในระดับสูงเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้นานขึ้น

หลังจากที่ดัชนี S&P Global Purchasing Manufacturer's index ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมทางธุรกิจในสหรัฐอเมริกา กลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนในเดือนกุมภาพันธ์ จากการสำรวจพบว่า อยู่ที่ระดับ50.2 เพิ่มขึ้นจาก 46.8 ในเดือนมกราคม โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคบริการที่แข็งแกร่ง รายงานฉบับนี้ได้สนับสนุนข้อมูลและตัวเลขทางเศรษฐกิจจำนวนมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งได้วาดภาพของเศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่นซึ่งเป็นเหตุผลเบื้องหลังของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งโดยธนาคารกลางในปี 2022 เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ

 

เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ ยังอยู่ห่างจากระดับใกล้เคียงกับเป้าหมาย 2% ของเฟด และเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งจึงมีผู้เข้าตลาดเงินมากขึ้น โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ในเดือน ก.ค. จะอยู่ที่ระดับ 5.35% และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับระดับดังกล่าวตลอดทั้งปี

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 697.1 จุด หรือ 2.06% เหลือ 33,129.59 จุด, S&P 500 (.SPX) ลดลง 81.75 จุด หรือ 2.00% เป็น 3,997.34 จุด และ Nasdaq Composite (.ICIC) ลดลง 294.97 จุด หรือ2.5% เหลือ 11,492.30 จุด

 

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในช่วงที่มีความผันผวนเนื่องจากความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าอุปทานที่ลดลง ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 1.38% เหลือ 82.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนมีนาคมซึ่งสิ้นสุดในวันอังคาร ลดลง 0.12% เหลือ 76.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ทองรูปพรรณลดลง 0.4% เหลือ 1,834.02 เหรียญต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์สของสหรัฐลดลง 0.26% เหลือ 1,835.60 เหรียญต่อออนซ์