มหากาพย์วัตถุบินปริศนา ชนวนสั่นคลอนความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน

โฆษกทำเนียบขาวย้ำว่าการเชื่อว่าวัตถุบินเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้สร้างจากน้ำมือมนุษย์นับเป็นเรื่องไร้เหตุผล ขณะที่ทางการสหรัฐฯและแคนาดาพยายามอธิบายการมีอยู่ของวัตถุดังกล่าว

“ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเป็นสัญญาณของมนุษย์ต่างดาวหรือกิจกรรมจากนอกโลก” Karine Jean-Pierre โฆษกทำเนียบขาวกล่าว

มหากาพย์วัตถุบินปริศนาเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2023 เมื่อสหรัฐฯยิงบอลลูนสอดแนมของจีนตกนอกชายฝั่งเซาท์แคโรไลนา ขณะที่วัตถุชิ้นที่สองถูกยิงตกเมื่อวันศุกร์ใกล้กับเดดฮอร์ส รัฐอะแลสกา วัตถุชิ้นที่สามถูกทำลายเหนือเมืองยูคอนของแคนาดาเมื่อวันเสาร์ และวัตถุบินปริศนาชิ้นที่สี่ถูกยิงตกเหนือทะเลสาบฮูรอน ใกล้กับพรมแดนแคนาดาในวันอาทิตย์

ทางด้าน John Kirby โฆษกความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวระบุว่า “เรายังไม่สามารถประเมินได้ ว่าวัตถุเหล่านี้คืออะไร เศษซากจากวัตถุบินปริศนาที่เรายังหาไม่เจอ น่าจะให้ข้อมูลกับเราได้อีกมาก”

แม้วัตถุบินปริศนาจะไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามทางทหาร แต่วัตถุดังกล่าวอาจรบกวนเส้นทางการบินในประเทศได้ เนื่องจากลอยอยู่ในระดับ 20,000 – 40,000 ฟุตเหนือพื้นดิน  ส่วนสาเหตุที่ต้องยิงทิ้งเนื่องจากทางการไม่สามารถระบุได้ว่าวัตถุบินเหล่านี้กำลังสอดแนมอยู่หรือไม่

ส่วนทางการจีนออกมาปฏิเสธว่าบอลลูนลูกแรกไม่ใช่บอลลูนสอดแนม แต่เป็นยานวิจัยพลเรือนที่ใช้สำหรับภารกิจวิจัยอุตุนิยมวิทยา และไม่มีความเกี่ยวข้องกับวัตถุบินปริศนาอีกสามชิ้นที่เหลือ

นอกจากนี้ทางการจีนยังโหมข่าวเพิ่มรอยร้าวความสัมพันธ์ โดยรายงานว่าพบวัตถุบินปริศนาของสหรัฐฯใกล้ฐานทัพเรือ เหนือน่านน้ำใกล้เมืองริเชา ขณะที่หน่วยงานอื่น ๆ รายงานว่าพบวัตถุบินบริเวณ ‘เจียงเก๋อจวง’  ฐานทัพเรือหลักของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ใกล้กับชิงเต่า

จีนยังเสริมว่า วัตถุบินปริศนาของสหรัฐฯ บินเหนือน่านฟ้าของจีนโดยไม่ได้รับอนุญาตมามากกว่า 10 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปี 2022 แม้ว่าทำเนียบขาวจะปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวไปแล้วก็ตาม

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนถือว่ามีความคุกรุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การค้นพบว่าจีนส่งบอลลูนสอดแนมเข้ามาเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ ยิ่งทวีความตึงเครียดและสั่นคลอนความสัมพันธ์ของสองชาติมหาอำนาจ ขณะที่ Antony Blinken นักการทูตจากสหรัฐฯต้องยกเลิกกำหนดการเดินทางไปยังปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว