สหรัฐยอมรับมีจุดอ่อนในการตรวจหาบอลลูนจีน

เพนตากอนกล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ว่าบอลลูนสายลับจีนได้บินข้ามสหรัฐอเมริกาอย่างสั้น ๆ อย่างน้อยสามครั้งระหว่างการบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และหนึ่งครั้งก่อนหน้านี้ภายใต้การดูแลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

Glen VanHerck นายพลกองทัพอากาศ หัวหน้ากองบัญชาการป้องกันอวกาศและกองบัญชาการภาคพื้นอเมริกาเหนือของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า บอลลูนลูกล่าสุดสูง 200 ฟุต (60 เมตร) และมีน้ำหนักบรรทุกราวสองพันปอนด์ 

เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับบอลลูนลูกก่อนหน้านี้ รวมถึงสถานที่ที่พวกมันบินอยู่เหนือสหรัฐอเมริกา 

'ผมจะบอกคุณแค่ว่า เราไม่ได้ตรวจพบภัยคุกคามเหล่านั้นมาก่อน และนั่นคือช่องว่างในการรับรู้ของเรา' 

VanHerck เสริมว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐได้กำหนดเที่ยวบินก่อนหน้านี้ หลังจากรวบรวมข้อเท็จจริงโดยอาศัย "วิธีการรวบรวมเพิ่มเติม" ของหน่วยข่าวกรองโดยไม่เสนอรายละเอียดเพิ่มเติมว่า จากการจารกรรมทางไซเบอร์ การดักฟังทางโทรศัพท์หรือแหล่งข่าวที่มาจากมนุษย์ 

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอเมริกาได้เสนอที่จะแถลงข้อมูลจากฝ่ายบริหารก่อนหน้านี้เกี่ยวกับรายละเอียดของบอลลูนของจีน สมัยที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี

เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ยิงบอลลูนจีนที่สงสัยว่าจะเป็นบอลลูนจารกรรมตกนอกชายฝั่งเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันเสาร์  หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่มันเข้ามาในน่านฟ้าของสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก และจุดชนวนให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯแย่ลง VanHerck ไม่ได้ความเป็นไปได้ว่าอาจมีระเบิดบนบอลลูน แต่กล่าวว่าเขาไม่มีหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับบอลลูนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงนั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขาวางแผนที่จะยิงลูกโป่งลงเหนือทะเลเปิด

เครื่องบินขับไล่และเครื่องบินเติมน้ำมันหลายลำมีส่วนเกี่ยวข้องกับภารกิจครั้งนี้ แต่มีเพียงลำเดียว -- เครื่องบินขับไล่ F-22 จากฐานทัพอากาศแลงลีย์ในเวอร์จิเนีย ได้ยิงจรวดใส่บอลลูนโดยใช้ขีปนาวุธซูเปอร์โซนิค AIM-9X เพียงนัดเดียว

VanHerck กล่าวว่าเศษซากของบอลลูนและอุปกรณ์ได้ถูกเก็บมาโดยเรือรบ

ยามชายฝั่งของสหรัฐกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าได้กำหนดเขตรักษาความปลอดภัยชั่วคราวในน่านน้ำนอกหาดเซิร์ฟไซด์ รัฐเซาท์แคโรไลนา ในบริเวณที่บอลลูนถูกยิงตก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยว่าพบเซนเซอร์สอดแนมที่ติดตั้งบนบอลลูน หลังจากที่มันพุ่งลงไปในมหาสมุทร หรือไม่