แผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรีย ตายกว่า 100 ราย
เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.9 ที่เกิดขึ้นทางตอนกลางของตุรกีและทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อวันจันทร์ คร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยขณะที่อาคารพังทลายลงมาทั่วพื้นที่ที่มีหิมะปกคลุม เป็นอุปสรรคต่อการการค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ในซากอาคาร
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดของเช้าฤดูหนาว แรงสั่นสะเทือนยังรู้สึกได้ในไซปรัสและเลบานอน
แผ่นดินไหวครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 110 ราย ส่วนอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ทางตอนเหนือและตะวันตกของประเทศต่างๆพังถล่มลงมา
หน่วยงานด้านภัยพิบัติของตุรกีระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 76 ราย และบาดเจ็บ 440 ราย ขณะที่ทางการเร่งระดมทีมกู้ภัยและจัดหาเครื่องบินไปยังพื้นที่ประสบภัย พร้อมประกาศ "สัญญาณเตือนภัยระดับ 4" ที่เรียกร้องให้นานาชาติช่วยเหลือ
ขณะที่ Ahmad Damirieh รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของซีเรีย กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 110 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 500 รายในพื้นที่ Aleppo, Hama, Latakia และ Tartous ของซีเรีย ขณะที่อาคารต่างๆ ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากโครงสร้างที่ไม่แข็งแรง เช่นเดียวกับฝั่งตุรกีซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้ว 76 ราย
“ตอนนี้ ทั้งทีมแพทย์ ทีมกู้ภัยผจญเพลิง รวมถึงสภาเสี้ยววงเดือนแดง (Red Crescent) กำลังเพิ่มความพยายามเป็น 2 เท่า เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบและติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง” Ahmad Damirieh กล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ภายในตัวอาคารและร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทุกแห่งต่างเตรียมพร้อมรับผู้ป่วย
ขณะที่พื้นที่ชนบทในเมือง Aleppo ‘กลุ่มหมวกขาว (The White Helmets)’ หรือกลุ่มประชาชนอาสาสมัครในหน่วยพยาบาลซึ่งไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ได้เข้าให้การช่วยเหลือเด็กและประชาชนในพื้นที่
ภาพถ่ายบางส่วนเผยออกมาว่ากลุ่มหมวกขาวกำลังอุ้มทารกที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยเลือด ออกมาจากซากตึกที่ถล่มลงมา ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งช่วยกันดึงร่างไร้วิญญาณออกมาจากซากคอนกรีต