ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกจากตัวเลขการจ้างงานสะท้อนว่าเศรษฐกิจดีขึ้น

จากข้อมูลเมื่อวันศุกร์ เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มดีขึ้น อัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนธันวาคม ส่งผลให้อัตราการว่างงานกลับมาอยู่ในระดับต่ำสุดก่อนเกิดโรคระบาดที่ 3.5%  ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 4.6% จากปีก่อนหน้า ลดลงจาก 4.8% ในเดือนพฤศจิกายน

แม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง แต่นักลงทุนมองว่ารายงานดังกล่าวเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจมีการปรับตัวขึ้น ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ยังสูงขึ้น และมุ่งเน้นไปที่การชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อ  ค่าจ้าง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่เฟดได้เฝ้าสังเกตเมื่อเผชิญกับแรงกดดันด้านราคา

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 700.53 จุด หรือ 2.13% อยู่ที่ 33,630.61 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น86.98 จุด หรือ 2.28% อยู่ที่ 3,895.08 จุด ในขณะที่ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 264.05 จุด หรือ 2.56% อยู่ที่10,569.29 จุด

ด้านราคาน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ เบรนท์ ฟิวเจอร์ส ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% มาอยู่ที่78.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ0.1% อยู่ที่ 73.77 ดอลลาร์

ส่วนราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่า 1%  เป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรกระทรวงการคลังและเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าเฟดจะลดความแข็งกร้าวลง ซึ่งจะทำให้โลหะมีค่าเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 1,867.18 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.9%  ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา