จีนฟ้ององค์กรการค้าโลก (WTO) กรณีสหรัฐแบนตลาดชิป

แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวในกรุงเจนีวาว่า

 'จีนได้ดำเนินการทางกฎหมายในกรอบ WTO ซึ่งเป็นวิธีการที่จำเป็นเพื่อตอบสนองความกังวลของเราและเพื่อปกป้องผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของเรา'

ทั้งยังกล่าวเพิ่มเติมว่าการบิดเบือนตลาดของสหรัฐ "คุกคามเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมทั่วโลก"

สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐไม่ได้แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าว

ขณะที่โฆษกของ WTO ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

การขอคำปรึกษาซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการอันยาวนานขององค์กรการค้าโลกในการแก้ไขกรณีพิพาททางการค้า แต่การที่สหรัฐอเมริกาได้สกัดกั้นกั้นการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับสูงของ WTO เกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้า ทำให้หลายกรณีไม่เคยได้รับการแก้ไข

การร้องเรียนของจีนเกี่ยวกับการส่งออกชิปของสหรัฐฯ  เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากการตัดสินของ WTO ให้วอชิงตันแพ้คดีในการฟ้องร้องแยกต่างหากเกี่ยวกับภาษีโลหะที่จีนยื่นฟ้องด้วยจากหลายๆกรณี

สหรัฐอเมริกาปฏิเสธคำตัดสินของ WTO ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะสหรัฐมักจะคัดค้านกระบวนการอนุญาโตตุลาการของ WTO อยู่เสมอ

ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คณะบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดนได้ออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิปให้กับจีน โดยพุ่งเป้าไปที่การส่งออกชิปคอมพิวเตอร์ขั้นสูงที่มีจุดประสงค์เพื่อการใช้งานในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยรัฐบาลสหรัฐวิตกว่า จีนกำลังใช้ระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ล้ำสมัย เพื่อปรับปรุงการคำนวณต่างๆ ในการออกแบบอาวุธ, การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์, ระบบไฮเปอร์โซนิก และระบบขีปนาวุธอื่นๆ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์ผลการสู้รบ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ได้ออกกฎระเบียบใหม่ซึ่งกำหนดว่า บริษัทผลิตชิปของสหรัฐที่ต้องการจะส่งออกชิปที่สามารถนำไปใช้ในระบบผลิตอาวุธนั้น จะต้องได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงก่อน นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ออกมาตรการควบคุมการออกใบอนุญาต เพื่อป้องกันไม่ให้พลเมืองของสหรัฐทำงานให้กับอุตสาหกรรมการผลิตชิปของจีน เพราะเกรงว่าจะทำให้พลเมืองของสหรัฐเผชิญกับความเสี่ยง