เมื่อผู้ใช้ Twitter หนีไปใช้ Mastodon หลัง Musk เข้าครองกิจการ
หลังจากการเข้าซื้อหุ้น Twitter ของ Elon Musk มีการประกาศเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทำให้ผู้ใช้งานเริ่มมองหาทางเลือกอื่นๆ หนึ่งในผู้รับผลประโยชน์ที่สุดคือ Mastodon ซึ่งล่าสุดมีผู้ใช้มากกว่า 655,000 รายแล้ว โดยมากกว่า 230,000 รายเข้าร่วมในสัปดาห์ก่อนเพียงสัปดาห์เดียว
ดูจากหน้าตาแล้ว Mastodon ดูแทบไม่ต่างจากTwitter ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเขียนโพสต์ ซึ่งเรียกว่า "toots" สามารถตอบกลับ ถูกใจ และโพสต์ซ้ำ และพวกเขาสามารถติดตามกันและกันได้ แต่จริงๆแล้ว แพลตฟอร์มนี้ทำงานในลักษณะที่ต่างไปจากทวิตเตอร์ไม่น้อย ซึ่งได้สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้ใหม่ที่สมัครใช้งานครั้งแรกพอสมควร
แม้แพลตฟอร์มนี้จะเปิดใช้งานมา 6 ปีแล้ว แต่ตอนนี้ ดูคึกคักขึ้นอย่างมาก หลังการเปลี่ยนแปลงในทวิตเตอร์ ทำให้มีผู้ใช้งานหน้าใหม่สมัครเข้าร่วมใช้งานมากขึ้น
สิ่งแรกที่คุณต้องทำเมื่อสมัครคือเลือกเซิร์ฟเวอร์ มีมากมายตามธีม ซึ่งกำหนดขึ้นตามประเทศ เมือง หรือความสนใจ เช่น สหราชอาณาจักร โซเชียล เทคโนโลยี เกม และอื่นๆ แต่ไม่ว่าคุณจะสมัครเซิฟเวอร์ไหน คุณก็ยังสามารถติดตามผู้ใช้คนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด แต่ชุมชนเริ่มต้นที่คุณเลือกมีแนวโน้มที่จะโพสต์สิ่งที่คุณสนใจมากกว่า
เซิร์ฟเวอร์ที่คุณเลือกจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชื่อผู้ใช้ของคุณ เช่น หากเราใช้ชื่อปัจจุบันเป็น AAA และเลือกเซิร์ฟเวอร์ Social ทำให้ชื่อผู้ใช้เราจะเป็น @[email protected] หากคุณอยู่บนเซิร์ฟเวอร์เดียวกัน คุณสามารถค้นหาโดยใช้ชื่อของบุคคลนั้นได้ แต่ถ้าพวกเขาอยู่บนเซิร์ฟเวอร์อื่น คุณจะต้องมีที่อยู่แบบเต็ม เนื่องจากMastodon จะไม่แนะนำผู้ติดตามที่คุณอาจสนใจต่างจาก Twitter คุณจึงอาจต้องค้นหาผู้ที่จะติดตามจากแฮชแท็กได้
ที่น่าสนใจคือ Mastodon ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียว และไม่ใช่ของบุคคลหรือบริษัทเดียว เซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ เหล่านี้เชื่อมโยงกัน และสร้างเครือข่ายแบบรวม แต่เซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นเป็นของผู้คนและองค์กรที่แตกต่างกัน ซึ่งก็คือโซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจ ทำให้แพลตฟอร์มไม่สามารถดำเนินการตามคำสั่งหน่วยงานเดียวหรือบุคคลเดียวที่เป็นเจ้าของ แต่ก็มีข้อเสียคือ หากเจ้าของเซิฟเวอร์ตัดสินใจที่ปิดการใช้งานเซิฟเวอร์ คุณจะสูญเสียบัญชีของคุณไป Mastodon จึงขอให้เจ้าของเซิร์ฟเวอร์แจ้งให้ผู้ใช้ทราบสามเดือนหากพวกเขาตัดสินใจที่จะปิด ในช่วงแรกนี้ Mastodon ไม่มีโฆษณา และเซิฟเวอร์ส่วนใหญ่จะใช้งานได้ฟรี ขึ้นอยู่กับเซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้ บางแห่งอาจขอบริจาคเนื่องจากไม่ได้รับเงินสนับสนุน แต่ส่วนใหญ่สามารถใช้ได้ฟรี
นอกจากแพลตฟอร์ม Mastodon แล้ว Jack Dorsey ผู้ก่อตั้ง Twitter ดั้งเดิมก็กำลังทำงานในเครือข่ายใหม่ที่เรียกว่า BlueSky และเขาบอกว่าเขาต้องการให้มีการทำงานแบบกระจายอำนาจเช่นกัน