สหรัฐตามหลังจีนหลายปี พัฒนาอาวุธความเร็วเหนือเสียงไม่ทัน
ความเห็นจากผู้บริหารของ Raytheon Technologies ผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ของสหรัฐและอยู่ในเครือผู้ผลิตขีปนาวุธนำวิถีรายใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม มีรายงานที่น่าตกตะลึงว่าจีนได้ทำการทดสอบอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียง (hypersonic weapons) สองครั้งในช่วงฤดูร้อน รวมถึงหนึ่งในยานพาหนะที่เรียกว่าไฮเปอร์โซนิกร่อน ปล่อยจากขีปนาวุธหรือจรวด โดยเกรกอรี่ เฮยส์ (Gregory Hayes) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Raytheon Technologies Corp. ชี้ว่าอาวุธดังกล่าวสามารถทำความเร็ว 22,000 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราว 35,405 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
hypersonic weapons สามารถบินผ่านชั้นบรรยากาศด้วยความเร็วเสียงมากกว่า 5 เท่าและยังยากที่จะตรวจจับและสกัดกั้นก่อนเข้าโจมตีเป้าหมายอีกด้วย ก่อนหน้านี้ แฟรงก์ เคนดัลล์ ( Frank Kendall) รัฐมนตรีกระทรวงกองทัพอากาศสหรัฐ กล่าวสุนทรพจน์เมื่อเดือนกันยายนถึงศักยภาพของขีดความสามารถในอวกาศของจีนที่เรียกว่า "ระบบทิ้งระเบิดแบบชิ้นส่วน" หรือระบบที่อาวุธพุ่งทะยานเข้าสู่วงโคจรแล้ว จากนั้นสลัดหลุดต่กวงโคจรแล้วมุ่งโจมตีเป้าหมาย
เฮยส์กล่าวกับสำนักข่าว Bloomberg ว่า รัฐบาลสหรัฐล้าหลังจีนอยู่หลายปีในการครอบครองอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียง โดยกล่าวในการให้สัมภาษณ์ในรายการ “Balance of Power With David Westin.” ทางสถานีโทรทัศน์ Bloomberg Television ว่า “เราช้าไปอย่างน้อยหลายปี”
“เราจะมีอาวุธที่จะท้าทายคู่ต่อสู้ได้ แต่ที่สำคัญที่สุด ผมคิดว่าจุดสนใจของเราคือเราจะพัฒนาปฏิกิริยาต่อต้านไฮเปอร์โซยนิกส์อย่างไร นั่นคือสิ่งที่ท้าทาย” เฮยส์ กล่าว
ความเห็นของเฮยส์ยังสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐที่แสดงความเห็นกับ Bloomberg Television ในรายการ “The David Rubenstein Show: Peer-to-Peer Conversations” โดยชี้ว่าความสำเร็จของจีนเทียบเท่ากับความสำเร็จของสหภาพโซเวียตในการพัฒนาดาวเทียมดวงแรกของโลก ซึ่งแซงหน้าความพยายามในการเป็นเจ้าอวกาศของสหรัฐ
“สิ่งที่เราเห็นเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมากในการทดสอบระบบอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียง และเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง” พลเอก มาร์ค มิลลีย์ (General Mark Milley) ประธานคณะเสนาธิการร่วมกล่าวถึงความสำเร็จของจีน "ผมไม่รู้ว่ามันเป็นช่วงเวลาทแบบเดียวกับสปุตนิกหรือเปล่า แต่ผมคิดว่ามันใกล้เคียงมาก มันดึงความสนใจทั้งหมดของเรา”
มิลลีย์ชี้ว่าจีนสามารถประหยัดต้นทุนด้านการทหารไปได้มาก โดยเขาอ้างว่าจีนสามารถตัดค่าแรงทหารไปได้ ส่วนสหรัฐมีต้นทุนด้านนี้สูงมาก
นอกจากนี้ เขากล่าวว่าการวิจัยและพัฒนาของกองทัพจีนส่วนใหญ่นำโดยบริษัทของรัฐในภาคธุรกิจ ซึ่งไม่นับเป็นการใช้จ่ายด้านกลาโหมของทางการ แต่เข้าพิจารณาให้ดีจะพบว่างบประมาณด้านการทหารของจีนใกล้เคียงกับสหรัฐมากกว่าที่ใครหลายคนจะคาดคิด
ภาพ - ขีปนาวุธแบบแนวคิด Hypersonic Air-breathing Weapons Concept (HAWC) ของบริษัท Raytheon Missiles & Defense


