posttoday

นานาชาติทยอยให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเฮติ

14 มกราคม 2553

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

ทั้งองค์กรนานาชาติและหน่วยงานภาครัฐจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลความช่วยเหลือเข้าสู่เฮติอย่างเร่งด่วน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่แน่นอนยังไม่สามารถระบุได้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่าแสนคน หลังจากที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติเหลือแต่ซากจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.0 ริกเตอร์ ที่ถล่มเฮติอย่างยับเยินเมื่อ 2 วันก่อน

ตั้งแต่รุ่งเช้าวานนี้ความช่วยเหลือจากนานาประเทศก็เริ่มต้นระดมเข้าสู่เฮติทันที โดยเครื่องบินของทางการจีนซึ่งระดมทีมช่วยชีวิตราว 50 คน โดยมีทั้งแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว ทีมค้นหาผู้รอดชีวิต พร้อมด้วยสุนัขดมกลิ่น อาหาร ยา และสาธารณูปโภคอื่นๆ ราว 10 ตัน ร่อนลงจอดที่สนามบินในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ตามมาด้วยเจ้าหน้าที่จากสหรัฐ และประเทศอื่นๆ ตามมาอีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ทุกประเทศระดมกำลังช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายในซากของอาคารที่ทลายลงมาอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งมีทั้งอาคารบ้านเรือน อาคารสำนักงาน และแม้กระทั่งอาคารรัฐสภาและทำเนียบประธานาธิบดี อีกทั้งต้องเยียวยาผู้รอดชีวิตที่ตามรายงานระบุว่า จำนวนไม่น้อยตกอยู่ในอาการตกใจและหวาดผวาจากเหตุหายนะครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 200 ปี

เจ้าหน้าที่จากองค์กรแพทย์ไร้พรมแดนของฝรั่งเศส กระจายความช่วยเหลือไปยังโรงพยาบาลที่มีเพียง 2 แห่งในเมืองหลวงของประเทศ โดยภายในโรงพยาบาลมีผู้ได้รับบาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ในขณะที่แพทย์ยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ

การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทุลักทุเล โดยต้องตั้งเต็นท์คลินิกชั่วคราวเพื่อรองรับความต้องการในการช่วยเหลือชาวบ้านบางส่วนที่ยากจะเข้าถึงยังโรงพยาบาล

รายงานบรรยากาศภายในพื้นที่ดังกล่าวว่า ถนนในใจกลางเมืองหลวงถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นแคมป์ที่พักชั่วคราว และสถานที่แจกจ่ายอาหารที่ได้รับการบริจาคจากนานาประเทศและองค์กรต่างๆ ให้กับผู้รอดชีวิต แต่ทว่าก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่มีอยู่มากมาย

ตามรายงานระบุว่า ข้าวของเครื่องใช้ที่ยังสามารถใช้งานได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการช่วยเหลือและพยาบาลผู้รอดชีวิต รถบรรทุกถูกนำมาใช้ในการขนส่งผู้ประสบภัยที่ยังเคราะห์ดีรอดชีวิตมาได้จากการถูกดึงออกมาจากซากอาคารบ้านเรือน ส่วนประตูบ้านจากซากปรักหักพังถูกนำมาแปรเปลี่ยนเป็นเปลหามผู้รอดชีวิตส่งโรงพยาบาล

“เหตุการณ์ครั้งนี้เลวร้ายกว่าเหตุภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากการถูกโจมตีด้วยพายุเฮอริเคนเสียอีก ไม่มีน้ำ ไม่มีสิ่งใดหลงเหลือ ผู้คนอยู่ในสภาพหิวกระหายและรอคอยความตาย” นพ.จีมิตร์ โคกีลยง หนึ่งในทีมแพทย์ช่วยชีวิต กล่าว

ด้าน โอลิวิเย เบอร์นาร์ด ประธานองค์กรแพทย์เพื่อโลกของฝรั่งเศส ออกมาระบุว่า การดำเนินความช่วยเหลือที่เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากสำนักงานของรัฐบาลเฮติ อีกทั้งสำนักงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เป็นหน่วยกลางในด้านการให้ความช่วยเหลือก็ถูกทำลายเช่นกัน ดังนั้นการประสานงานและความช่วยเหลือจึงไม่สะดวก

รายงานระบุว่า เป้าหมายที่ทางทีมบรรเทาสาธารณภัยของทางยูเอ็นกำลังพยายามอย่างแรกก็คือ การค้นหาผู้รอดชีวิตภายใต้ซากอาคารบ้านเรือนที่พังทลาย อีกทั้งยังต้องระดมกำลังจากวิศวกรด้านการสื่อสารพยายามกู้ระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์ภายในเฮติให้สามารถกลับคืนมาใช้งานได้อีกครั้ง เพื่อที่ว่าจะช่วยให้การช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างชัดเจนออกมา อีกทั้งตัวเลขจากการคาดการณ์ก็แตกต่างกันอย่างมาก

เรเน เปรวาล ประธานาธิบดีของเฮติ ระบุเพียงว่า มันอาจจะเร็วเกินไปที่จะระบุตัวเลขการสูญเสีย แต่ผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ที่ 35 หมื่นคน ส่วน ยูริ ลาตอร์ตู เจ้าหน้าที่วุฒิสภาเฮติ กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะพุ่งไปอยู่ที่ราว 5 แสนคน แต่ก็ยังคงไม่ยืนยันอย่างชัดเจนเช่นกัน

ส่วนทางด้านนายกรัฐมนตรีเฮติ ฌองแมกซ์ แบลล์รีฟ กลับแถลงผลการคาดการณ์เบื้องต้นว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์มหันตภัยร้ายแรงครั้งนี้มากกว่า 1 แสนคน

ด้านเจ้าหน้าที่ยูเอ็นยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ของยูเอ็นในเฮติอย่างน้อย 16 คนเสียชีวิต และอีกราว 100150 คนสูญหาย ซึ่งรวมถึง เฮดิ แอนนาบิ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการของยูเอ็นประจำเฮติด้วย

ส่วนทางสถานทูตสหรัฐออกมาระบุว่า ยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แน่ชัดได้ แต่เบื้องต้นมีการเปิดเผยว่ามีชาวอเมริกันอาศัยอยู่ในเฮติราว 44.5 หมื่นคน อีกทั้งยังระบุว่าชาวอเมริกันจำนวนมากที่อยู่ที่นั่นต้องการที่จะออกจากประเทศ แต่ยังไม่สามารถเดินทาง ออกจากประเทศแห่งภัยพิบัตินี้ได้

ในขณะเดียวกันผู้รอดชีวิตราว 200 คน ซึ่งรวมทั้งเด็กเล็กๆ เป็นจำนวนมาก ได้ใช้พื้นที่ลานจอดรถของโรงหนังแห่งหนึ่งในเมืองหลวงเป็นที่หลับนอน และใช้กระดาษและสิ่งต่างๆ ที่พอหลงเหลือและหาได้จากซากปรักหักพังมาเป็นที่กำบังหลบแดด

รายงานกล่าวว่า คืนแรกหลังจากโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ผู้รอดชีวิตจำนวนมากต่างสวดมนต์และร้องเพลงขอพรจากพระเจ้า ตามรายงานระบุว่า มีเสียงเพลงและเสียงสวดมนต์ล่องลอยอยู่ทั่วทุกพื้นที่ที่ผู้รอดชีวิตรวมตัวกัน ด้วยหวังว่าจะเป็นหนทางเพื่อวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า

 “พวกเรายังเด็กเกินกว่าที่จะตายในเวลานี้ พวกเราต้องการความช่วยเหลือจากนานาประเทศ ที่นี่เรายังไม่ได้รับความช่วยเหลือฉุกเฉิน ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น” เด็กคนหนึ่งตะโกนบอกผู้สื่อข่าว

ในขณะที่พื้นที่หลายส่วนถูกแปรเปลี่ยนเป็นที่พักชั่วคราว แต่ก็มีอีกหลายที่ที่ใช้เป็นสถานที่ลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตนำมากองเรียงรายเอาไว้

นอกจากนี้ อลิซาเบธ บิส โฆษกของหน่วยงานด้านมนุษยชนในกรุงเจนีวา ยังมีรายงานว่า นักโทษจำนวนมากใช้โอกาสนี้หลบหนีจากคุกที่พังพินาศลงเช่นกัน

ส่วน เคลลี บาสเตียน ประธานวุฒิสภาของเฮติ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือออกมาจากภายในซากตึกรัฐสภา ถูกนำส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในโดมินิกันประเทศเพื่อนบ้านทันที

ด้านทำเนียบขาวของสหรัฐ แถลงว่า บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐได้โทรศัพท์พูดคุยกับทางเลขาธิการของยูเอ็น และผู้นำของประเทศต่างๆ อย่างบราซิล แคนาดา เม็กซิโก และชิลี ถึงความพยายามที่จะเข้าช่วยเหลือทางเฮติ แต่ทว่ายังคงไม่สามารถติดต่อกับทางประธานาธิบดีของเฮติได้แม้ในขณะนี้

ด้าน โรเบิร์ต เกตส์ ถึงกับต้องระงับแผนในการเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ เพื่อที่ทั้งสองจะได้จัดการรับมือกับความช่วยเหลือที่จะส่งไปยังเฮติอย่างเต็มที่

ส่วน บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐ คาดการณ์เบื้องต้นว่า ประชาชนเกือบ 3 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรในประเทศทั้งหมด กำลังต้องการความช่วยเหลือ อีกทั้งยังถือเป็นความต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินครั้งใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาอีกด้วย

ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และทูตพิเศษของสหประชาชาติ ระบุว่า สิ่งที่เฮติต้องการมากที่สุดในขณะนี้ก็คือเงินสำหรับซื้ออาหาร น้ำ ที่พักอาศัย รวมทั้งยา

นอกจากนี้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐยังได้เปิดเว็บไซต์ของมูลนิธิคลินตันให้กับผู้ที่ต้องการมีส่วนร่วมช่วยเหลือชาวเฮติร่วมบริจาคด้วย m

ข่าวล่าสุด

เสนอพรรคการเมือง 3 ทางออก ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ต้อง 'ห้ามซื้อขาย' เด็ดขาด