ยักษ์ยานยนต์สะดุดถ้วนหน้า วิกฤตชิปขาดแคลนทำโรงงานผลิตชะงัก
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์โดยเฉพาะอย่างในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ทั่วโลกโดยเฉพาะโรงงานในอเมริกาเหนือ
AlixPartners บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกกล่าวว่าการขาดแคลนชิปทั่วโลกอาจส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องเสียเงินถึง 61,000 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับยอดขายที่จะหายไปในปีนี้และอาจส่งผลให้การฟื้นตัวของผลผลิตในไตรมาสที่ 2 ล่าช้าออกไปอีก
สถานการณ์การขาดแคลนชิปส่งผลให้การผลิตรถยนต์ของผู้ผลิตหลายรายต้องหยุดชะงัก อาทิ
Toyota Motor Corp.
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. Toyota กล่าวว่ากำลังเร่งประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังเกิดเพลิงไหม้ที่โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนี้ยังประสบปัญหาขาดแคลนปิโตรเคมีซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตทั้ง 10 รุ่นที่ผลิตในโรงงานในรัฐเคนตักกี้ มิสซิสซิปปี เท็กซัส เวสต์เวอร์จิเนีย และเม็กซิโก
Tesla Inc.
กล่าวเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า "ความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นทำให้อุปทานของไมโครชิปขาดแคลนและยังไม่ทราบว่าเราจะได้รับผลกระทบอย่างไร"
Ford Motor Co.
ประกาศหยุดการผลิตรถยนต์ในเมืองเอวอนเลค รัฐโอไฮโอ โดยมีแผนจะกลับมาผลิจอีกครั้งในวันที่ 29 มี.ค. นอกจากนี้ยังได้ลดการผลิตที่โรงงานในรัฐเคนตักกี้จนถึงวันที่ 29 มี.ค. เช่นเดียวกัน
Nissan Motor Co.
หยุดการผลิตในรัฐโอไฮโอและเทนเนสซีตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. โดยคาดว่าจะกลับมาเริ่มผลิตใหม่อีกครั้งในวันที่ 23 มี.ค. รวมถึงยกเลิกการผลิตในโรงงานในอากวัสกาเลียนเตส ประเทศเม็กซิโก ขณะที่โรงงานในรัฐมิสซิสซิปปีถูกระงับไปตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม
Honda Motor Co.
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. มีการระงับการผลิตในโรงงานบางแห่งทั่วสหรัฐอเมริกา อาทิ รัฐแอละแบมา รัฐอินดีแอนา และรัฐโอไฮโอ รวมถึงรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา โดยระบุว่าการขาดแคลนชิปเป็นผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสภาพอากาศในฤดูหนาวที่รุนแรง
ในวันที่ 22 มี.ค. บริษัทกล่าวว่ากำลังดำเนินการเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นและปรับการผลิตตามความจำเป็นโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
Photo by JIM YOUNG / AFP