อินฟลูเอนเซอร์จีนไลฟ์ขายเสื้อผ้าแค่ 24 ชม. โกยเงิน 430 ล้านบาท
จางต้าอี้ผันตัวจากนางแบบดังมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่นที่มีผู้ติดตามในโซเชียลกว่า 20 ล้านคน แต่ละคลิปที่เธอไลฟ์มียอดวิวเกือบ 10 ล้าน
จางต้าอี้ผันตัวจากนางแบบดังมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่นที่มีผู้ติดตามในโซเชียลกว่า 20 ล้านคน แต่ละคลิปที่เธอไลฟ์มียอดวิวเกือบ 10 ล้าน
“โค้ทตัวนี้ทำจากวูล 100% เลยค่ะ น้ำหนักเบาและบางกว่าเสื้อโค้ทวูลทั่วไป แต่ว่าอุ่นเหมือนกัน”
หญิงสาวคนหนึ่งอธิบายผ่านไลฟ์ในขณะที่กำลังสวมโอเวอร์โค้ทสีชมพูให้ลูกค้าดู
“แล้วมันจะกันหนาวได้มั้ย”
ลูกค้ารายหนึ่งพิมพ์ถามเข้ามาในแชทบ็อกซ์
“ฉันว่าเหมาะกับช่วงอากาศหนาวทางภาคใต้นะ ลมหนาวทางภาคเหนือค่อนข้างแรง”
หญิงสาวคนเดิมตอบกลับ
ในไลฟ์นี้และไลฟ์อื่นๆ หญิงสาวจะเป็นทุกอย่าง ทั้งช็อปปิ้งไกด์ นางแบบ สไตลิสต์ เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า นำเสนอเสื้อผ้าที่ทีมงานของเธอครีเอทขึ้น ไปจนถึงให้คำปรึกษาเรื่องสไตล์ และตอบคำถามเรื่องดีไซน์ เนื้อผ้า ราคา
ไลฟ์ที่ว่านี้มีคนเข้ามาดูกว่า 9.73 ล้านครั้ง
เจ้าของไลฟ์คือ จางต้าอี้
จางต้าอี้เป็นแฟชั่นอินฟลูเอนเซอร์เบอร์ต้นๆ ของจีน มีผู้ติดตามในโซเชียลกว่า 20 ล้านคน และยังเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องสำอางที่ sold out ภายในพริบตาด้วย
ว่ากันว่าเธอมีอิทธิพลกับนักช็อปออนไลน์มากกว่าฟ่านปิงปิง หรือคิม คาร์ดาเชี่ยนเสียอีก
จางต้าอี้ในวัย 31 ปี เริ่มสั่งสมความดังจากการเป็นนางแบบให้กับนิตยสารแฟชั่นตั้งแต่ปี 2009
ปี 2014 ก็เริ่มทำร้านเสื้อผ้าของตัวเองในแพลตฟอร์ม Taobao ร่วมกับ เฝิงหมิ่น ผู้ก่อตั้ง Ruhan E-commerce บริษัทที่ปรึกษาให้กับอินฟลูเอนเซอร์
แฟนคลับที่ตามเธอมาตั้งแต่เห็นหน้าเธอในนิตยาสารแฟชั่นก็พากันมาสนับสนุนร้านของเธอเพียบ
และด้วยความที่เธอเป็นนางแบบมาก่อน การโพสต์ภาพที่เจ้าตัวสวมใส่เสื้อผ้าร้านตัวเองยิ่งส่งให้เสื้อผ้าดูดีดูสวยขึ้นไปอีก
สาวๆ คนไหนเห็นก็ต้องอยากใส่ตามเป็นธรรมดา
พูดง่ายๆ ก็คือขายทั้งเสื้อผ้าและไลฟ์สไตล์ไปพร้อมๆ กัน
เพียงแค่เธอโพสต์ขายเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ในเว็บไซต์ Taobao ในเทศกาลช็อปปิ้งวันคนโสด 11.11 เมื่อปี 2016 ก็ขายได้ถล่มทลายถึง 5,000 ชิ้นภายใน 2 วินาที
สรุปแล้วในเทศกาล 11.11 เมื่อ 3 ปีที่แล้ว จางต้าอี้กลายเป็นร้านค้าแรกของ Taobao ที่ทำลายสถิติทำยอดขายแตะ 100 ล้านหยวนได้เร็วที่สุด
สถิตินี้ยังทำให้จางต้าอี้ติดอันดับ 1 ใน 10 เซเลบริตี้ออนไลน์ของจีนในปี 2016
มีรายงานว่าในปีเดียวกันนี้เธอยังโกยรายได้ไปถึง 300 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,290 ล้านบาท
ตัวเลขนี้สูงกว่ารายได้ของนักแสดงอันดับต้นๆ ของวงการบันเทิงจีนด้วยซ้ำ
ในปี 2017 จางต้าอี้ตัดสินใจเปิดร้านค้าออนไลน์ร้านที่ 2 สำหรับแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง
หญิงสาวสร้างปรากฏการณ์ sold out อีกครั้ง หลังโพสต์ขายลิปสติก 20,000 แท่งในเว็บไซต์ได้เพียง 2 ชั่วโมงก็ถูกซื้อไปจนเกลี้ยง
ทำให้จางต้าอี้ได้รับตำแหน่งร้านค้าที่ทำยอดขายได้ 100 ล้านหยวนในวันคนโสดได้เร็วที่สุดอีก 1 ปี
น่าทึ่งมากว่าในขณะที่ร้านค้าอื่นหรือแบรนด์ใหญ่ๆ ตั้งเป้าว่าจะทำยอดขายให้ได้ปีละ 100 ล้านหยวน
แต่สำหรับจางต้าอี้ เธอทำมันราวกับว่าเป็นเรื่องง่ายๆ เป้าหมายนี้ใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น
จางต้าอี้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารแฟชั่นถึงเคล็ดลับที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเจ้าตัวไว่อย่างน่าสนใจ
เธอบอกว่าการจะโพสต์โซเชียลมีเดียให้ได้ยอด engagement เยอะๆ ต้องรู้จักการตั้งคำถาม
คำถามที่จะทำให้คนดูเข้ามาตอบ
เธอยกตัวอยย่างเปรียบเทียบ 2 ประโยค คือ “ชุดนี้สวยมาก” กับ “คุณคิดว่าชุดนี้เป็นยังไงบ้าง”
ประโยคหนึ่งเป็นการบอกเล่าเฉยๆ ประโยคหนึ่งเป็นประโยคคำถาม
ประโยคแรก หากคนดูคิดว่าชุดนั้นไม่สวยก็จะไม่ตอบเลย
ส่วนประโยคหลังเปิดโอกาสให้คนดูโต้ตอบ และยังทำให้เราตอบกลับคนดูได้อีก
แต่แค่นี้ยังไม่พอ
จางต้าอี้ยังประเมินความชอบของฟอลโลเวอร์ซึ่งแน่นอนว่าเป็นลูกค้าของเธอจากช่องคอมเม้นต์อีกช่องทางหนึ่ง
วิธีนี้ช่วยให้เธอผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
และยังทำให้คาดการณ์ได้เบื้องต้นว่าควรผลิตสินค้าชิ้นไหนจำนวนเท่าไร เพื่อแก้ปัญหาสินค้าเหลือ
กลยุทธ์สุดท้าย เธอจะทำโปรโมชั่น flash sale คือขายในราคาพิเศษภายในเวลาจำกัด และเปิดพรีออร์เดอร์
ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากกลเม็ดเคล็ดลับเจ๋งๆ แล้ว ขั้นตอนการซื้อสินค้าก็ต้องง่าย จบภายในไม่กี่สเต็ป
ในกรณีของจางต้าอี้ ลูกค้าสามารถคลิกลิ้งค์ในโพสต์ที่เธอลงในเว่ยปั๋วได้เลย
แล้วลิ้งค์นั้นๆ จะพาไปยังหน้าเว็บของสินค้าที่ลูกค้าต้องการ ตอนจ่ายเงินก็ใช้กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ที่คนจีนส่วนใหญ่มีกันอยู่แล้ว
ซื้อง่ายจ่ายคล่องแบบนี้ ร้อยล้านไม่แตกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
View this post on Instagram


