บรูไนยอมถอย ระงับโทษประหารเกย์ด้วยการขว้างหินให้ตาย
หลังเผชิญกับการโจมตีจากทั่วโลก รวมถึงกระแสเรียกร้องให้เลิกลงทุนกับกิจการของสุลต่านแห่งบรูไน
หลังเผชิญกับการโจมตีจากทั่วโลก รวมถึงกระแสเรียกร้องให้เลิกลงทุนกับกิจการของสุลต่านแห่งบรูไน
สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ ทรงประกาศระงับการลงโทษประหารชีวิตตามหลักกฎหมายอิสลาม อันได้แก่การประหารชีวิตผู้ที่กระทำความผิดในข้อหามีพฤติกรรมรักร่วมเพศและการล่วงประเวณี หลังจากเผชิญกับกระแสโจมตีอย่างรุนแรงจากทั่วโลก โดยทรงชี้ว่าบรูไนไม่ได้ประหารชีวิตนักโทษตามกฎหมายอาญามานานถึง 20 ปีแล้ว จึงจะไม่มีการประหารนักโทษตามหลักกฎหมายอิสลามเช่นกัน
สุลต่านแห่งบรูไนทรงมีพระราชดำรัสผ่านการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ โดยตรัสว่า "ข้าพเจ้าทราบว่าเกิดคำถามมากมาย และเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการประใช้ (กฎหมายอาญาอิสลาม) แต่ไม่ควรมีข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับกฎหมายอิสลาม เพราะกฎหมายนี้เปี่ยมไปความกรุณาและพรของพระเจ้า"
องค์สุลต่านตรัสด้วยว่า "ดังที่ปรากฎชัดมานานกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาว่า ในทางพฤตินัย เราได้ระงับการลงโทษประหารชีวิตสำหรับคดีตามกฎหมายอาญาสามัญ ดังนั้นจะมีการระงับการบังคับใช้โทษประหารเช่นกัน ในกรณีอื่น (ประมวลกฎหมายอาญาอิสลาม) ซึ่งมีช่องทางให้การให้อภัยโทษที่กว้างขวางกว่า"
นอกจากนี้ องค์สุลต่านยังทรงให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้สัตยาบันอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน ซึ่งบรูไนลงนามไว้เมื่อหลายปีก่อน
ทั้งนี้ บรูไนใช้ระบบกฎหมายสองทาง โดยมีศาลกิจการทางโลกควบคู่ไปกับศาลตามหลักอิสลาม หรือศาลชารีอะห์ ซึ่งจะพิพากษาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักศาสนา เช่นกรณีสมรสและมรดก
นับเป็นครั้งแรกที่สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ ทรงมีพระราชดำรัสต่อสาธารณชนเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญาใหม่ตามหลักกฎหมายอิสลาม นับตั้งแต่มีการบังคับใช้อย่างเต็มที่เมื่อเดือนที่แล้ว โดยเฉพาะการกำหนดโทษประหารผู้มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ด้วยการขว้างด้วยหินจนเสียชีวิตตามหลักอิสลาม ซึ่งสร้างก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ในทางลบไปทั่วโลก


