สิงคโปร์เปิดแผนขุดเมืองลงใต้ดินแก้ปัญหาแออัด

เมื่อข้อจำกัดด้านพื้นที่ทำให้สิงคโปร์ไม่สามารถขยายเมืองแนวราบ-แนวตั้งได้ การย้ายเมืองลงใต้ดินคือคำตอบ

ประเทศสิงคโปร์ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะขนาดเล็ก แต่รองรับจำนวนประชากรกว่า 5.6 ล้านคน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่สิงคโปร์ต้องใช้วิธีการวางโครงสร้างผังเมืองในลักษณะแนวราบ เช่นการถมทะเล และแนวตั้งเช่นการสร้างตึกสูง

แต่หากว่าการขยายตัวในลักษณะทั้งแนวราบ และแนวตั้งไม่สามารถทำได้อีกต่อไปอันเนื่องมาจากข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่อาจต้องมองความเป็นไปได้ในการขยายเมืองลงใต้ดิน

 

 

ด้วยเหตุนี้จึงนำไปสู่แผนแม่บทที่รัฐบาลโดยองค์กรพัฒนาเมืองสิงคโปร์ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ในการวางแผนนำเอาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆใน 3 เขตของประเทศลงใต้ดินเพื่อให้สามารถเหลือพื้นที่ด้านบนเพื่อพัฒนาในด้านอื่นๆ

"เพื่อปรับปรุงการใช้พื้นที่ใต้ดินอย่างมีประสิทธิภาพ เราได้ใช้เทคโนโลยี 3 มิติเพื่อช่วยในการวางแผนล่วงหน้าสำหรับพื้นที่ใต้ดิน โดยแผนใต้ดิน 3 มิตินี้จะเตรียมขยายไปยังพื้นที่อื่นในอนาคตด้วย" ตอนหนึ่งของรายงานระบุ

ตามแผนดังกล่าวที่เปิดเผยออกมาระบุว่า ทางการสิงคโปร์เตรียมจะนำโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบไฟฟ้า ระบบขนส่ง คลังเก็บสินค้า และโรงงานต่างๆลงใต้ดิน ก่อนจะแปรสภาพที่ดินในการใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ

 

 

รายงานระบุว่าแผนการดำเนินงานครั้งนี้มีระยะเวลาถึง 10-15 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะในย่านมารีนาเบย์ ซึ่งจัดเป็น 1 ใน 3 เขตที่สิงคโปรืมีแผนย้ายลงใต้ดินซึ่งปัจจุบันนั้นในย่านแห่งนี้ก็มีโครงสร้างพื้นฐานบางส่วนรองรับอยู่ใต้ดินแล้วเช่นทางหลวงใต้ดิน ลานจอดรถใต้ดิน ทางเดินเท้าใต้ดิน

 

 

ทั้งนี้ หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลสิงคโปร์ต้องใช้พื้นที่อันจำกัดของตนรองรับการพัฒนาอสังหา ด้วยวิธีการถ่มทะเลเพื่อขยายพื้นที่ของประเทศ โดยพบว่าจากเดิมในปี 1959 นั้นสิงคโปร์มีพื้นที่อยู่ราว 581 ตารางกิโลเมตร แต่ปัจจุบันสิงคโปร์มีพื้นที่ 724 ตารางกิโมเมตร

นอกจากนี้ทางรัฐบาลยังคาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีแรงงานย้ายถิ่นฐานเข้ามาในสิงคโปร์มากขึ้นเป็น 6.9 ภายในปี 2030 ขณะที่่เมื่อช่วงปี 1990 สิงคโปร์มีประชากรเพียง 3 ล้านคนเท่านั้น