posttoday

ส่องตลาดเวียดนามโอกาสธุรกิจไทย

01 เมษายน 2560

เวียดนามเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และกำลังเติบโตสูง จึงเป็นโอกาสของกลุ่มวายอีซีที่เจาะตลาดใหม่

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ กรุงเทพฯ หรือ YEC Bangkok (วายอีซี กรุงเทพฯ) ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และทายาทธุรกิจ มีสมาชิกรวมกว่า 200 ราย ได้จัดคอร์ส YECBK ซีซั่น 1 ที่นำวิทยากรและนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาให้ข้อมูลและแนะนำโอกาสทางธุรกิจต่างๆ พร้อมทั้งพาสมาชิกไปสำรวจตลาดที่เมืองโฮจิมินห์ เวียดนาม

กวิน ว่องกุศลกิจ ประธานกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ กรุงเทพฯ หรือ YEC Bangkok และผู้อำนวยการคอร์ส YECBK ซีซั่น 1 บอกว่า กลุ่มวายอีซี กรุงเทพฯ ที่เข้าคอร์สอบรมและนำมาเปิดตลาดในเวียดนามครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะทำให้เกิดโอกาสและความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกันระหว่างสองประเทศในอนาคต

อุรีรัชต์ รัตนพฤกษ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ให้ข้อมูลภาพรวม ว่าจีดีพีของประเทศเวียดนามปี 2560 จะขยายตัวมากกว่า 6.21% ขนาด จีดีพีมากกว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ มีธุรกิจจดทะเบียนใหม่มากกว่า 1.10 แสนธุรกิจ นักท่องเที่ยวต่างชาติมาก กว่า 10 ล้านคน มูลค่าการค้า 3.49 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และเกินดุล การค้าประมาณ 2.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

แรงหนุนที่ธุรกิจไทยต้องมาลงทุนที่ประเทศเวียดนาม จะมีทั้งต้นทุนการผลิตที่น่าสนใจ มีทรัพยากรแรงงาน อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ตลาดภายในประเทศใหญ่และใหญ่ ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ การเมืองมีความมั่นคง เอื้อประโยชน์ให้นักลงทุน และมีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องอัตราการจัดเก็บภาษีที่จูงใจ เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่อัตรา 17-20% (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการลงทุน) และอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล 10% ในพื้นที่เขตทุรกันดาร เขตเศรษฐกิจที่ใช้เทคโนโลยีขึ้นสูง พื้นที่การวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์ โครงการพื้นฐานที่สำคัญต่อการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และธุรกิจทางด้านการพัฒนาสังคม รวมถึงมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภาษีนำเข้า และมีโครงการที่ไม่ต้องเสียภาษีที่ดินหรือได้รับการลดค่าเช่าที่ดิน

ขณะเดียวกัน ไทยลงทุนโดยตรงในเวียดนามเป็นอันดับ 10 เมื่อเทียบกับนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด หรือเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน และไทยมีการลงทุนรูปแบบควบรวมกิจการ (เอ็มแอนด์เอ) รายใหญ่สุดในเวียดนาม ส่วนการค้าไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของเวียดนามในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และมีเป้าหมายการค้าระหว่างกันไว้ที่ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 จากปัจจุบันมีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

รวมถึงไทยเป็นประเทศในสมาชิกอาเซียนที่มีเที่ยวบินสู่เวียดนามมากที่สุด นักท่องเที่ยวไทยมีจำนวนมากสุดในอันดับ 2 ของอาเซียน โดยในปี 2559 มีมากถึง 2.70 แสนคน และประเทศไทยเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเวียดนาม ชื่นชอบ

สำหรับธุรกิจที่เวียดนามสนับสนุนให้ไทยมาลงทุน ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมการผลิต 2.การเกษตรและการแปรรูปอาหาร 3.พลังงานและสิ่งแวดล้อม 4.ท่องเที่ยวและบริการ 5.การกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ 6.โครงสร้าง พื้นฐาน 7.อสังหาริมทรัพย์

"แนวโน้มการลงทุนของไทยในเวียดนามจะเป็นธุรกิจเอ็มแอนด์เอ ธุรกิจการกระจายสินค้า โครงการ โลจิสติกส์ อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค การขยายลงทุนในด้านการเงิน การธนาคาร การขยายลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก และการพัฒนาเขตอุตสาหกรรม" อุรีรัชต์ กล่าว

อุตสาหกรรมที่ไทยลงทุนมากสุดคือ กลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปการผลิต รองลงมาคือ เกษตรกรรม ป่าไม้และการประมง กิจกรรมของธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ การขายส่งขายปลีก ซ่อมแซมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ การก่อสร้าง ที่อยู่อาศัย อาหารและธุรกิจบริการ

เวียดนามเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และกำลังเติบโตสูง จึงเป็นโอกาสของกลุ่มวายอีซีที่เจาะตลาดใหม่

ข่าวล่าสุด

จับตาประชุมอาเซียน ชี้ชะตาสงครามไทย–กัมพูชา จบหรือยืดเยื้อ