ศก.วูบ ริงกิตอ่อน มาเลย์กระอัก-สงขลาจุก

โดย...อัสวิน ภฆวรรณ

เศรษฐกิจมาเลเซียถือว่าตกต่ำสุดในรอบ 7 ปี ค่าเงินริงกิตซึ่งร่วงจาก 9 บาทต่อ 1 ริงกิต มาเหลือเพียง 7 บาท ส่งผลต่อเศรษฐกิจภาคใต้ตอนล่างอย่างมาก โครงการต่างๆ ที่กำลังปักหลักเริ่มต้นต้องชะงักงันทันที

สมพร สิริโปราณานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลาแทบไม่คืบหน้าเรียกได้ว่ายังนิ่งอยู่ ซึ่งปัจจัยสาเหตุหลักมาจาก
ภาวะเศรษฐกิจของมาเลเซีย

“ภาวะเศรษฐกิจของมาเลเซียไม่ดี การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษมีไม่กี่เปอร์เซ็นต์และยังนิ่งอยู่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง”

ที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจของมาเลเซียถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจภาคใต้ตอนล่างของไทย ทั้งการค้าชายแดน การท่องเที่ยว และแรงงานไทยที่ข้ามไปทำงานในประเทศมาเลเซีย

ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยแนวพรมแดนไทย-มาเลเซียฝั่ง อ.สะเดา จ.สงขลา ตรงข้ามรัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย บอกว่าคนไทยจำนวนมากที่เข้าไปทำงานรับจ้าง หรือประกอบกิจการร้านอาหารในมาเลเซีย เมื่อนำเงินริงกิตส่งกลับมาให้ครอบครัวในประเทศไทยต้มยำกุ้งกลับมีรายได้ลดลงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเงินริงกิต ลดลงจาก 9 บาท เหลือเพียง 7 บาท

“หลายรายปฏิเสธไม่รับเงินริงกิต โดยให้ไปแลกเป็นเงินบาทไทย หรือเหรียญสหรัฐก่อนเพราะอัตราแลกเปลี่ยนเงินริงกิตขึ้นลงขาดทุนกันมาก”

ทวีศักดิ์ แสงป้อม อดีตนักวิชาการชำนาญการสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา บอกว่า แรงงานไทยในประเทศมาเลเซียมีจำนวนประมาณ 1.5 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานร้านอาหารมีรายได้วันละประมาณ 40-50 ริงกิต หรือวันละ 360-450 บาท แต่ปัจจุบัน ค่าเงินริงกิต ลดลงมาเหลือ 280-350 บาท ขณะที่ค่าครองชีพในมาเลเซียถือว่าค่อนข้างราคาสูงมาก โดยเฉพาะที่รัฐชายแดนมาเลเซีย-สิงคโปร์ เฉพาะข้าวมันไก่ราคาจานละ 180 บาท

ขณะที่กลุ่มมัคคุเทศก์ใน จ.สงขลา ก็บอกว่าภาวะเศรษฐกิจมาเลเซียกระทบต่อธุรกิจตามแนวพรมแดน ทำให้กำลังซื้อมาเลเซียถดถอยไปด้วย ที่กระทบโดยตรงคือ โรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร เพราะชาวมาเลย์ที่เข้ามาท่องเที่ยวจะประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า
แต่ก่อนมาก

“เดิมเคยใช้จ่ายวันละ 5,000 บาท ขณะนี้เหลือ 2,000 กว่าบาท และยังเข้ามาท่องเที่ยวน้อยลง เดิมช่วงเทศกาลสำคัญห้องพักโรงแรมจะไม่พอ แต่มาตอนนี้กลับอยู่ในระดับพอดี หรือราว 80-90% ไม่เต็มแบบแต่ก่อน”

นอกจากปัจจัยค่าเงินริงกิตแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลย์เข้ามาท่องเที่ยวไทยลดลง เนื่องจากการปรับราคาน้ำมัน โดยเฉพาะดีเซลจากลิตรละ 1.615 ริงกิต เป็นลิตรละ 2.581 ริงกิต น้ำมันเบนซิน 95 จากลิตรละ 1.912 ริงกิต เป็นลิตรละ 2.70 ริงกิต

ประเด็นเศรษฐกิจของมาเลเซียยังเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องติดตามกันต่อไป เนื่องจากส่งผลอย่างสำคัญต่อการค้าชายแดนและเศรษฐกิจของภาคใต้ และที่สำคัญยังมีผลกระทบโดยตรงต่อหลากหลายโครงการพัฒนาของไทยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นความหวังในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย