ครม.ขยายเวลาสนามบินเบตง เปิดใช้ปี 2562

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

เบตงเป็นประตูการค้าสำคัญ ตั้งอยู่ใกล้เมืองเศรษฐกิจสำคัญทางภาคเหนือของมาเลเซียคือ ปีนังและเปรัค มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์เข้ามาปีละ 2.5 แสนคนรายได้ประมาณปีละ 1,500 ล้านบาท และนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นแต่อุปสรรคสำคัญของการพัฒนาเมืองเบตง คือภูมิประเทศที่เป็นภูเขา และเส้นทางคมนาคมที่ไม่สะดวก ท่าอากาศยานเบตง จึงเป็นสิ่งที่คนชายแดนใต้สุดต้องการมากว่า 20 ปี และเริ่มปรากฏให้เห็นจริงจังเมื่อปี 2558 เมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง ในพื้นที่ ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา พื้นที่ 920 ไร่ ระยะรันเวย์ 1,800 เมตร กรอบวงเงิน 1,900 ล้านบาท

อิทธิพล อับดุลเลาะ ผู้ประสานงานโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง บอกว่า คนเบตงต้องการมีสนามบินมากว่า 20 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ช่วงปี 2515 กองทัพอากาศเคยก่อสร้างสนามบินไว้ 1 แห่ง ระยะรันเวย์ 700 เมตร ห่างจากตัวเมืองเบตง 12 กิโลเมตร แต่ก็ไม่มีการใช้งานมาเป็นเวลานาน ช่วงปี 2554 สายการบินกานต์แอร์เคยเปิดเที่ยวบิน เบตง-หาดใหญ่ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จและยกเลิกไปในที่สุด

ต่อมาช่วงปี 2550 กรมท่าอากาศยาน ลงพื้นที่มาสำรวจเพื่อก่อสร้างสนามบิน โดยสำรวจสนามบินเก่า แต่พบว่า ติดชุมชนและสถานีตำรวจภูธรยะรม ไม่สามารถขยายได้ จึงไปใช้ที่ฝั่งตรงข้ามกับสนามบินเดิม พื้นที่ 920 ไร่ เพื่อก่อสร้างสนามบิน

“ที่ดิน 920 ไร่ จะส่งมอบครบทั้งหมดภายในเดือน พ.ย.นี้ ห่างแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย 7 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการหาผู้ยื่นซองประกวดราคาก่อสร้าง แต่เนื่องจากมีผู้ยื่นซองเพียงรายเดียว ก็อยู่ที่คณะรัฐมนตรีจะคัดเลือก หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็เดินหน้าก่อสร้างได้ทันที ล่าสุด ครม.ขยายกรอบเวลาการเปิดใช้งานจากเดิมปี 2561 ออกไปเป็นปี 2562” อิทธิพล เล่าถึงที่มาและความคืบหน้าล่าสุดของโครงการ

ในฐานะคนในพื้นที่ อิทธิพล มองว่าท่าอากาศยานเบตงจะเกิดประโยชน์อย่างมาก นักธุรกิจชายแดนฝั่งมาเลเซียนิยมเดินทางไปเที่ยวภูเก็ต ซึ่งจะต้องเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่ปีนัง แต่หากมีสนามบินเบตง แล้วเปิดเที่ยวบินไปภูเก็ตค่าโดยสารจะถูกกว่า และการเดินทางก็จะสะดวกกว่า ในระยะแรกคาดว่าสนามบินเบตงจะรองรับได้วันละ 4 เที่ยวบินไปกลับ ผู้โดยสารวันละประมาณ 300 คน

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง ผ่านขั้นตอนสำคัญต่างๆ เรียบร้อยแล้ว อาทิ รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ผ่านความเห็นชอบตั้งแต่เดือน ก.ย. 2557 ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างราคากลาง ตามแนวทางที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้กำหนดไว้

ต้องจับตาอีกครั้งในช่วงเดือน พ.ย.นี้ ว่าที่ประชุม ครม.จะพิจารณาคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างได้เรียบร้อย เพื่อเดินหน้าโครงการสำคัญที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนเมืองชายแดนอย่างเบตงให้พัฒนาไปอีกขึ้น เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับภูมิภาค เชื่อมโยงอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย