นักทำความสะอาดที่เกิดเหตุฆาตกรรม อาชีพสุดแปลกในเม็กซิโก
ชายชาวเม็กซิโกคนหนึ่งผู้หาเลี้ยงชีพด้วยการทำความสะอาดที่เกิดเหตุฆาตกรรม หนึ่งในอาชีพที่พบเห็นได้ไม่ง่าย แต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ชายชาวเม็กซิโกคนหนึ่งผู้หาเลี้ยงชีพด้วยการทำความสะอาดที่เกิดเหตุฆาตกรรม หนึ่งในอาชีพที่พบเห็นได้ไม่ง่าย แต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
เม็กซิโกเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเกิดคดีอาชญากรรมสูงที่สุดในโลก คำถามคือใครเป็นผู้จัดการกับคราบเลือดในที่เกิดเหตุเหล่านั้น หลังจากตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทางนิติเวชทำหน้าที่เสร็จแล้ว?
Donavan Tavera คือชายชาวเม็กซิโกคนแรกที่มีอาชีพเป็นนักทำความสะอาดทางนิติเวช หลายคนเมื่อทราบว่าเขาทำอาชีพนี้อาจจะรู้สึกกระอักกระอ่วน แต่ตัวเขาเองนั้นหลงใหลในคราบเลือดเหล่านี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กด้วยซ้ำ
เมื่อตอนที่เขาอายุ 12 ขวบ เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นในละแวกบ้านของเขา เลือดไหลนองเต็มถนน แต่เขาไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด จนเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังที่เกิดเหตุก็ยังคงไม่มีใครมาล้างครบเลือดเหล่านั้น เขาและแม่จึงตัดสินใจนำน้ำไปล้างออก ท่ามกลางความสงสัยในวัยนั้นว่า หน้าที่นี้เป็นของใคร
นับจากวันนั้น Tavera ก็ตัดสินใจที่จะเป็นนักทำความสะอาดในที่เกิดเหตุ เขาเข้าไปในห้องสมุดและศึกษาเกี่ยวกับความรู้ทางนิติเวช ตลอดจนข้อมูลของศพ และการเสียชีวิต ยิ่งศึกษาก็ยิ่งทำให้เขาเข้าใจยิ่งขึ้นว่าอาชีพนี้สำคัญอย่างไร บางที่เกิดเหตุนั้นมีเลือดในปริมาณมาก บางศพนั้นเลือดของพวกเขามีโรคติดต่อ ดังนั้นจึงจำเป็นมากที่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะในการกำจัดคราบเลือดเหล่านี้ นอกจากนั้นตอนอายุ 17 ปี เขายังทดลองไปเป็นคนแล่เนื้อ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการชำระล้างคราบเลือดให้เชี่ยวชาญอีกด้วย
ซึ่งนอกจากคราบเลือดแล้ว บางครั้งในที่เกิดเหตุยังมีคราบของน้ำอสุจิ และอุจจาระเป็นต้น Tavera เชี่ยวชาญเฉพาะว่าเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นที่เปรอะเปื้อนเหล่านี้ควรทำความสะอาดด้วยวิธีใด ก่อนเริ่มงานเขาจะถามเจ้าหน้าที่ก่อนว่าผู้ตายเสียชีวิตด้วยวิธีใด เพราะหากมีการปนเปื้อนเขาจะได้วางแผนรับมือ และในขณะที่ทำงานเขาจะฟังเพลงคลาสสิกที่ชื่นชอบไปด้วยเพื่อความรื่นรมย์ ในขณะที่หากเสร็จจากงาน และเป็นขั้นตอนการล้างชุดแล้ว เขาจะเปิดเพลงเมทัลร็อก
Tavera เล่าว่า ลูกค้าที่จ้างเขานั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เขาพบเห็นผู้เสียชีวิต ไปจนถึงคราบเลือดบนเฟอร์นิเจอร์ และผนัง รวมถึงกลิ่นของมัน พวกเขาต้องทนทุกข์เป็นเวลาหลายชั่วโมง กว่าร่องรอย และกลิ่นเหล่านั้นจะหายไป และเมื่อจบงานของเขาแล้ว ลูกค้าของเขาจะรู้สึกโล่งอก ที่ทุกอย่างจะกลับมาอยู่ในสภาพเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และขอบคุณเขาด้วยความจริงใจ
ทั้งนี้การทำงานแบบเขานั้นต้องมีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ ตัวเขากล่าวทิ้งท้ายว่าไม่เคยคาดคิดเช่นกันว่าสิ่งนี้จะกลายมาเป็นอาชีพจริงๆได้ ในขณะเดียวกันงานนี้ก็ให้อะไรกับตัวเขามากมายเช่นกัน


