ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก กับเมืองใหม่ซูโจว (1)
รัฐบาลไทยกำลังผลักดันระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)
โดย...รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช
รัฐบาลไทยกำลังผลักดันระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งนโยบายหลักของรัฐบาลในการปฏิวัติอุตสาหกรรมเพื่อเป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาคและอาเซียน ซึ่งหากดูตามสื่อต่างๆ ส่วนใหญ่จะเขียนคำว่า “เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” EEC นั้นครอบคลุมพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
ขณะที่วัตถุประสงค์หลักของ EEC คือต้องการให้เป็นพื้นที่ลงทุนด้านอุตสาหกรรมจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมทั้งการพัฒนาเมืองและความเป็นอยู่ระดับนานาชาติ ส่วนหน้าตาในอนาคตของ EEC จะเป็นอย่างไรนั้น ผมขอเรียกว่าจะเป็น “เขตพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ของไทย” แต่การที่ไปถึงตรงนั้นได้หรือไม่ ผมจะเอา EEC ไปเปรียบเทียบกับการพัฒนาเมืองใหม่ซูโจว (Suzhou) ในมณฑลเจียงซู (Jiangsu) ในภาคตะวันออกของประเทศจีน
คำถามคือ “ทำไมต้องไปเปรียบเทียบกับเมืองซูโจว” ในบรรดาการพัฒนาเมืองใหม่ของจีนนั้น ซูโจวเป็นการพัฒนาเมืองของจีนที่ทันสมัยและที่ดีที่สุดในขณะนี้ เพราะเป็นการพัฒนาร่วมกันกับประเทศสิงคโปร์มีชื่อย่อว่า “CSSIP (China Singapore Suzhou Industrial Park)” ตั้งเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2537 โดยมีเป้าหมายการเป็นเมืองอุตสาหกรรม ศูนย์กลางธุรกิจและท่องเที่ยวที่บริหารจัดการโดยเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ซึ่งตรงกับสิ่งที่ EEC กำลังจะเป็น
ซูโจวมีพื้นที่อุตสาหกรรมทั้งหมด 1.8 แสนไร่ และเป็นพื้นที่ที่ร่วมพัฒนากับสิงคโปร์ 5 หมื่นไร่ ในขณะที่ EEC มีพื้นที่ทั้งหมด 5.97 หมื่นไร่ SIP แบ่งพื้นที่ออกเป็นเขตนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ ศูนย์กลางธุรกิจ ศูนย์กลางวิทยาศาสตร์นิเวศวิทยา เขตการค้าเสรี เขตอุตสาหกรรมไฮเทค และเขตท่องเที่ยว
ตำแหน่งที่ตั้งของ SIP นั้นห่างจากเซียงไฮ้ 100 กม. ติดกับมณฑลซานตง (Shandong) ทางตอนเหนือและห่างจากเมืองเอกจีหนาน (Jinan) 784 กม. ห่างจากเมืองเอกหางโจว (Hangzhou) ของมณฑลเจ้อเจียง (Zhejiang) ทางตอนใต้ 161 กม.
และสมมติผมมีหน้าที่ต้องนำ EEC ไปขายเพื่อดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามา จุดขายและศักยภาพของ EEC จะมีอะไรบ้าง จะสู้กับเมืองซูโจวได้หรือไม่ ผมขอเริ่มจากสโลแกนที่ผมคิด เพื่อเรียก EEC ว่าเป็น “หนึ่งภูมิภาคระเบียงเศรษฐกิจโลก (One Region Global Corridor)” โดย EEC สามารถเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงภูมิภาคและโลก ที่สามารถเชื่อมอาเซียน จีนรวมอาเซียนบวก 3 และอินเดีย และยังเชื่อมโยงทั้งเส้นทางและกรอบความร่วมมือของแต่ละประเทศในทุกมิติ เช่น อาเซียน MIEC (Mekong India Economic Corridor) GMS และ Bangladesh-China-India-Myanmar Economic Corridor (BCIM) รวมทั้ง SEZ ตามแนวชายแดนต่างๆ เป็นต้น
และเมื่อเปรียบเทียบศักยภาพของทั้งสองพื้นที่ โดยพิจารณาจาก 1.การเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเมืองใหม่ ซูโจวให้ความสำคัญกับการเป็นหมู่บ้านเกษียณและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ศูนย์วัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ ศูนย์แสดงสินค้า โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลนานาชาติ และกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียว 45% ของ SIP
ในขณะที่ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเมืองน่าอยู่ ชลบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยว สุขภาพและธุรกิจ ส่วนระยองเป็นเมืองนานาชาติระดับมาตรฐานโลก แต่ยังไม่มีการกำหนดพื้นที่สีเขียว SIP มีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยทั้งหมด 30 แห่ง มีบัณฑิตที่พร้อมที่จะทำงานได้ทันที 1.4 ล้านคน SIP ยังมีวิทยาลัยด้านอุตสาหกรรมโดยตรง และยังมีศูนย์จัดหางานในพื้นที่เพื่อคัดเลือกบัณฑิตและผู้เชี่ยวชาญให้ตรงกับความต้องการกับบริษัทชั้นนำของโลกที่ตั้งอยู่ในซูโจว
ส่วนการพัฒนาบุคลากรของไทยในส่วนนี้นั้น ครอบคลุมเรื่องสำคัญ เช่น สร้างสถาบันการศึกษาและจัดตั้งศูนย์วิจัย เป็นต้น แต่ยังขาดจำนวนตัวเลขว่าเป็นเท่าไรครับ ต่อฉบับหน้านะครับ


