posttoday

"นิ้งหน่อง" ช้างไทยแสนรู้ ช่วยเด็กอังกฤษรอดสินามึ

02 มิถุนายน 2559

เรื่องราวอันน่าประทับใจของ เด็กหญิงชาวอังกฤษ ที่ได้รับการช่วยเหลือจากกช้างไทยให้รอดพ้นจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ

เรื่องราวอันน่าประทับใจของ เด็กหญิงชาวอังกฤษ ที่ได้รับการช่วยเหลือจากกช้างไทยให้รอดพ้นจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ

เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์เดลิเมลและเทเลกราฟในอังกฤษ เปิดเผยเรื่องราวน่าประทับใจระหว่าง แอมเบอร์ โอเวน เด็กหญิงชาวอังกฤษ กับช้างน้อยที่ชื่อ นิ้งหน่อง ระหว่างที่ครอบครัวของแอมเบอร์มาพักผ่อนที่ภูเก็ตประเทศไทย เมื่อปี 2004

ทุกๆ เช้าแอมเบอร์จะรีบลงไปที่ชายหาดด้านหน้าโรงแรมเพื่อเล่นกับช้างน้อยวัย 4 ปีที่ชื่อนิ้งหน่อง เจ้านิ้งหน่องจะพาเธอขี่หลังมันไปเล่นในทะเลอย่างสนุกสนาน จนแอมเบอร์วัย 8 ขวบรู้สึกสนิทสนมกับมันอย่างมาก และคอยป้อนกล้วยให้มันทุกๆ เช้า ส่วนช้างน้อยนิ้งหน่องก็จะใช้งวงมาคลอเคลียและโอบแอมเบอร์ที่ไหล่ด้วยความรัก อีกทั้งยังไม่ยอมให้ใครขึ้นขี่หลังมันยกเว้นแอมเบอร์เพียงคนเดียว

วันที่ 26 ธ.ค. 2004 ช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.ของเช้าวันนั้นเกิดเหตุสึนามิขึ้น แต่ครอบครัวโอเวนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ส่วนแอมเบอร์หลังรับประทานอาหารเช้าแล้วออกไปขี่หลังนิ้งหน่องเล่นที่ชายหาดเหมือนเดิม แต่เด็กน้อยสังเกตว่าเจ้านิ้งหน่องรู้สึกตื่นๆ และพยายามออกมาให้ห่างจากทะเล

จู่ๆ น้ำทะเลก็ลดฮวบลงไป ทำให้ชายหาดแห้งเป็นพื้นที่กว้าง คนแถวนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นได้แต่พากันไปเดินเล่นและเก็บหอยและปลาอย่างเพลิดเพลิน แต่แอมเบอร์เล่าว่า เจ้านิ้งหน่องมีสัญชาตญาณรู้ว่าเรื่องผิดปกติใหญ่หลวงกำลังจะเกิดขึ้น มันจึงรีบวิ่งหนีออกห่างจากชายหาดอย่างสุดชีวิตโดยมีแอมเบอร์นั่งอยู่หลังบนของมัน ส่วนควาญช้างที่อยู่แถวๆ นั้นพยายามรั้งมันให้กลับมายังชายหาดอีก แต่นิ้งหน่องยิ่งฝืนพยายามวิ่งหนีออกไปจากที่นั่น

จนกระทั่งคลื่นยักษ์สึนามิซัดเข้ามาถล่มชายหาด นิ้งหน่องก็พาแอมเบอร์หนีขึ้นไปอยู่บนที่สูงได้ทัน แต่ก็ยังไม่พ้นจากพลังทำลายล้างของคลื่นยักษ์สึนามิ มันพยายามสู้กับแรงคลื่นสึนามิเพื่อพาแอมเบอร์ไปยังที่ปลอดภัยนั่นคือที่กำแพงเล็กๆ มันใช้แนวกำแพงหินบังกระแสน้ำที่ล้นเอ่อขึ้นมาจนกระทั่งแอมเบอร์สามารถปีนขึ้นไปบนกำแพงได้สำเร็จ แอมเบอร์เล่าว่า ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นและรู้สึกกลัว แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจที่รอดพ้นจากอันตรายมาได้

ส่วนพ่อแม่ของแอมบอร์ไม่ได้อยู่ที่ชายหาด แต่เมื่อได้ยินเสียงผู้คนกรีดร้องจากบริเวณนั้นขณะเกิดเหตุ ก็รีบวิ่งไปที่ชายหาดเพราะรู้ว่าลูกสาวต้องอยู่แถวๆ นั้นกับช้าง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซาแมนธาตะโกนถามว่า ช้างอยู่ที่ไหน แต่มีคนบอกว่ามันตายแล้ว ยิ่งทำให้ซาแมนธาตื่นตกใจเพราะลูกสาวต้องอยู่กับมันแน่ๆ แต่เธอก็ไม่ละความพยายาม แม้ว่าระดับน้ำจะเริ่มสูงขึ้นมาเรื่อยๆ

จนกระทั่งเธอมองเห็นนิ้งหน่องกับลูกสาวที่ท้ายหาดไกลๆ จึงค่อยโล่งอกขึ้นมาบ้าง รีบวิ่งไปพาลูกสาวกลับมาที่โรงแรมได้ทัน ก่อนอีก 10 นาทีต่อมาคลื่นลูกใหญ่จะซัดมาถึงล็อบบี้ด้านล่างของโรมแรม แต่ขณะนั้นทุกคนในครอบครัวโอเวนปลอดภัยแล้ว และอีก 3 วันต่อมาทั้งหมดก็เดินทางกลับอังกฤษ

ยกเว้นแต่นิ้งหน่องที่แอมเบอร์ไม่รู้ว่าชะตากรรมของมันจะเป็นอย่างไรหลังจากนั้น ผ่านมาถึงตอนนี้ แอมเบอร์อายุได้ 20 ปี แล้วเรื่องราวของเธอกับนิ้งหน่องได้รับการบอกเล่าและสร้างความประทับใจให้กับ ไมเคิล มอร์เพอร์โก นักเขียนบทละครชื่อดังเป็นอย่างมาก จนตัดสินใจเรียบเรียงเรื่องราวนี้เป็นหนังสือชื่อ Running Wild และยังได้รับการดัดแปลงเป็นบทละครเวทียอดนิยมอีกด้วย ขณะนี้กำลังเปิดแสดงที่กรุงลอนดอน โดยมีกำหนดการแสดงรอบสุดท้ายวันที่ 12 มิ.ย.นี้

การพบกันอีกครั้ง

แอมเบอร์ให้สัมภาษณ์กับเดลิเมลว่า "นิ้งหน่องช่วยชีวิตฉัน มันรู้ด้วยสัญชาตญาณว่ากำลังจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น จึงพาฉันไปยังที่ปลอดภัย ฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณนิ้งหน่องอยู่ตลอดเวลา และทำให้ฉันเห็นคุณค่าของการมีชีวิตมากยิ่งขึ้น นิ้งหน่องสอนฉันตั้งแต่ยังเด็กๆ ให้รู้ว่าสิ่งเลวร้ายอาจเกิดขึ้นได้อย่างกะทันหัน และชีวิตของเราอาจเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล" ส่วนซาแมนธาก็รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณนิ้งหน่องอยู่เสมอมาเช่นกัน และยังบริจาคเงินช่วยเหลือช้างในภูเก็ตเป็นประจำทุกปี

หลังจากเรื่องราวของแอมเบอร์และช้างน้อยแพร่มาถึงประเทศไทย ก่อเกิดกระแสความสนใจในวงกว้างและเกิดคำถามว่าตอนนี้นิ้งหน่องยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และในที่สุดด้วยความพยายามของหลายฝ่ายทำให้ทราบว่า ตอนนี้ช้างนิ้งหน่องยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้อาศัยอยู่ที่แคมป์ช้างสมนึก อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และเปลี่ยนชื่อเป็น พังใบตอง ตามสถานที่เกิดของมันคือ หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต

ภาพ - เดลิเมล

ที่มา www.m2fnews.com


 

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท