posttoday

เปิดเบื้องหลังสื่อมะกัน เหตุใดจึงเลือกข้าง?

08 พฤษภาคม 2559

หนังสือพิมพ์ในสหรัฐมีการเลือกเข้าข้างและสนับสนุนผู้สมัครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน

โดย...ชญานิศ ส่งเสริมสวัสดิ์

ตามหลักวิชาวารสารศาสตร์แล้ว สื่อควรวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะในเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์ในสหรัฐกลับมีการเลือกเข้าข้างและสนับสนุนผู้สมัครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน

ยกตัวอย่าง หนังสือพิมพ์ฟิลาเดลเฟีย อินไควเรอร์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐ มีคอลัมน์เขียนแนะนำผู้สมัครให้แก่ผู้อ่าน และออกในการเลือกตั้งหยั่งเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา หรือหนังสือพิมพ์ยูเนี่ยนลีดเดอร์ หนังสือพิมพ์ชื่อดังของรัฐนิวแฮมเชียร์ ก็เลือกที่จะสนับสนุน คริส คริสตี้ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน

กองบรรณาธิการของฟิลาเดลเฟีย อินไควเรอร์ เชื่อว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะเลือก ดังนั้นหนังสือพิมพ์เองก็มีสิทธิที่จะเลือกสนับสนุนผู้สมัครคนใดคนหนึ่งเช่นเดียวกัน

แน่นอนว่าการสนับสนุนผู้สมัครคนใดคนหนึ่งย่อมมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชน ยกตัวอย่างในฟิลาเดลเฟียที่บัตรเลือกตั้งมีความวุ่นวายซับซ้อนและเต็มไปด้วยชื่อของผู้สมัครมากมายในการหยั่งเสียงเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา เช่น ผู้สมัครชิงตัวแทนพรรคเพื่อสู้ศึกประธานาธิบดี ผู้สมัครตำแหน่งอัยการสูงสุด คณะผู้แทนที่ต้องการให้ประชาชนเลือกเพื่อไปลงคะแนนเสียงในวันประชุมใหญ่ของพรรค

นอกจากนี้ ยังมีส่วนที่ต้องลงคะแนนเสียงประชามติในวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติต้องเลือกลงคะแนนเสียงจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญของรัฐเพนซิลเวเนีย รวมถึงลงประชามติยกเลิกศาลการจราจรของเพนซิลเวเนียที่เต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวคอร์รัปชั่น

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกที่จะมีประชาชนถือหนังสือพิมพ์แล้วเข้าไปลงคะแนนเสียง และเลือกลงคะแนนเสียงตามที่หนังสือพิมพ์แนะนำเอาไว้

การเลือกเข้าข้างผู้สมัครในสหรัฐเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยเว็บบล็อกคอนสติติวชั่น เดลี เปิดเผยว่า การที่หนังสือพิมพ์เลือกสนับสนุนผู้สมัครเป็นธรรมเนียมที่มีมานานแล้วในสหรัฐ นับตั้งแต่ประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน ประกาศไม่ลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3 ในปี 1726 เรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ด้าน เนต ซิลเวอร์ เว็บไซต์ไฟว์เธอร์ตี้เอธ เว็บบล็อกเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่มีอิทธิพลอย่างมาก ระบุในปี 2011 ว่า การสนับสนุนเข้าข้างผู้สมัครของสื่อไม่ได้หมายความถึงชัยชนะของผู้สมัครคนที่ได้รับการสนับสนุนเสมอไป โดยนับตั้งแต่ปี 1972 มีการเลือกตั้งทั้งหมด 10 ครั้ง ผู้สมัครส่วนใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดากองบรรณาธิการพ่ายการเลือกตั้ง 3 ครั้ง ในปี 1976 และ 1996 รวมถึงปี 2004

ในขณะที่แม้ผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนจากสื่อจะได้รับชัยชนะถึง 7 ครั้ง แต่ซิลเวอร์ ระบุว่า ก่อนปี 1992 ชาวอเมริกันมีความชื่นชอบในพรรครีพับลิกันมาก ดังนั้นทั้งหนังสือพิมพ์และประชาชนต่างก็เข้าข้างพรรครีพับลิกันด้วยกันทั้งนั้น

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของภาคธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยสื่อทั่วโลกต่างมีภาคธุรกิจเป็นผู้สนับสนุนอย่างที่เราจะได้เห็นจากยอดโฆษณา หากรายงานข่าวที่เรียบง่ายและไม่พลิกแพลง ก็จะไม่มีโฆษณา และสื่อนั้นๆ ก็จำเป็นต้องปิดตัวลง

ทั้งนี้ วิทยุและโทรทัศน์ในสหรัฐนั้น ไม่มีการเลือกข้างผู้สมัครและยึดหลักการเป็นกลางทางวารสารศาสตร์ต่างจากหนังสือพิมพ์

แม้การโน้มน้าวโดยหนังสือพิมพ์ในการเลือกตั้งหยั่งเสียงขั้นต้นของสหรัฐในปัจจุบันจะไม่ได้ผล แต่การโน้มน้าวที่ได้ผลในขณะนี้ คือ การสนับสนุนโดยผู้มีชื่อเสียงหรือที่เรียกกันว่า “เซเลบ” โดยคอนสติติวชั่น เดลี เปิดเผยว่า การสนับสนุนโดยกลุ่มผู้มีชื่อเสียงเป็นเรื่องใหม่กว่าการสนับสนุนโดยสื่อ และเริ่มมาตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 1920 ที่เหล่าคนดังเริ่มเข้ามามีบทบาทในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

ในปี 1920 วาร์เรน ฮาร์ดิง ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีให้ อัล โจลสัน นักร้อง และเมรี พิคฟอร์ด นักแสดง รวมถึง ดักลาส แฟร์แบงก์ส นักแสดง ช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในภาพยนตร์ที่สร้างโดยบริษัทโฆษณา ในขณะที่ แฟรงก์ ซินาตรา นักร้องชื่อดัง ช่วยสนับสนุนให้แก่ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ในปี 1960

คอนสติตัวชั่น เดลี รายงานอ้างผลการศึกษา ว่า ในปี 2008 โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังและเจ้าแม่วงการสื่อสหรัฐให้การสนับสนุน บารัก โอบามา ขึ้นเป็นประธานาธิบดีได้ถึง 1 ล้านเสียง จนชนะ จอห์น แมคเคน ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันไปด้วยคะแนนเสียงมากกว่าถึง 9.5 ล้านเสียง

ข่าวล่าสุด

เสนอพรรคการเมือง 3 ทางออก ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ต้อง 'ห้ามซื้อขาย' เด็ดขาด