ปรับปรุง‘ท่าเรือปากเมง’ เชื่อมโยงท่องเที่ยว‘ลังกาวี’

โดย...เมธี เมืองแก้ว

“ท่าเรือปากเมง” ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ภายใต้เขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม นับได้ว่าเป็นท่าเรือท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นประตูเชื่อมโยงสู่เกาะและชายหาดต่างๆ ในท้องทะเลอันดามัน ซึ่งสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระดับนานาชาติกับเกาะลังกาวี ในประเทศมาเลเซียได้อีกด้วย

การกำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวนี้ทำให้กรมเจ้าท่ามีแนวคิดที่จะปรับปรุงท่าเรือปากเมง ซึ่งมีอายุกว่า 20 ปี ให้มีความทันสมัยและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น

กิตติรัศมิ์ เมธีกุล วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ ในฐานะประธานกรรมการกำกับการศึกษา สำนักวิศวกรรม กรมเจ้าท่า ระบุว่า แม้ปัจจุบันจะมีการก่อสร้างท่าเรือแห่งอื่นเพิ่มขึ้น เช่น ท่าเรือคลองสน ท่าเรือนาเกลือ ท่าเรือหาดยาว เป็นต้น แต่ “ท่าเรือปากเมง” ก็ยังเป็นท่าเรือที่มีศักยภาพสูง เพราะเป็นจุดศูนย์กลางที่สามารถเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลได้ทั้งหมด รวมทั้งเกาะพีพี และเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย อีกด้วย ดังนั้นท่าเรือแห่งนี้จึงควรได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างเร่งด่วน

“กรมเจ้าท่าจึงได้ว่าจ้างภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้ามาศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสำรวจออกแบบ ‘ท่าเรือปากเมง’ แห่งใหม่ โดยจะต้องให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนและให้พื้นที่ได้มีส่วนร่วม ซึ่งเริ่มจากการปฐมนิเทศโครงการเพื่อให้ได้รับทราบขอบเขต รายละเอียด และวิธีการศึกษา แล้วลงไปรับฟังข้อมูลหน่วยงานราชการในพื้นที่ และองค์กรส่วนท้องถิ่น ก่อนส่งผลกระทบให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ ในเดือน ก.ย. 2558 เพื่อนำเข้าสู่แผนการก่อสร้างต่อไป”

ด้าน ประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง มองว่า ในการขึ้นลง “ท่าเรือปากเมง” ของนักท่องเที่ยวในช่วงเช้า จะเกิดความแออัดมาก เนื่องจากหน้าท่าและทางเดินแคบ จึงนำเรือมาเทียบได้ทีละลำ กว่าจะเสร็จทั้งหมดก็ปาไปเกือบเที่ยง ยิ่งหากวันไหนตรงกับช่วงน้ำลง ทำให้เกิดปัญหาหน้าท่าต่ำ การเข้าออกของเรือก็จะยิ่งลำบากมาก ซึ่งท่าเรือในวันนี้กับเมื่อ 22 ปีที่แล้ว แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จากเดิมที่มีผู้ใช้บริการแค่วันละ 100-200 คน ก็มาเป็นวันละกว่า 2,000 คน หรือถึง 3,000 คน ในช่วงเทศกาล

ที่สำคัญก็คือ “ท่าเรือปากเมง” ถือเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน และยังเชื่อมโยงไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย เพราะสามารถเดินทางออกสู่ทะเลได้ใกล้กว่าที่อื่น และถนนหนทางมายังท่าเรือก็สะดวก นอกจากนั้นจุดที่ตั้งของท่าเรือยังมีเกาะบังอยู่ จึงไม่มีปัญหาการขึ้นลงแม้แต่ในหน้ามรสุม ทำให้เรือทุกชนิดต้องมาใช้บริการที่ท่าเรือแห่งนี้ ซึ่งถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับปรุงเพื่อรองรับการขนส่งทางน้ำในอนาคต