บ่อนกัมพูชาขึ้นพรึ่บ

หอการค้าชายแดนหวั่นแนวคิดสร้างกาสิโนตลอดแนวไทย-กัมพูชา กระทบความมั่นคงประเทศ

นายเกรียงศักดิ์ ปาลีคุปต์ ประธาน หอการค้าจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้หอการค้าจังหวัด ชายแดนไทย-กัมพูชา มีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนสร้างกาสิโนตลอดแนวชายแดนของประเทศกัมพูชาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกรงว่าอาจก่อให้เกิดปัญหาความมั่นคงภายในประเทศ ปัญหาด้านสังคมและอาชญากรรม รวมทั้งอาจกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการค้าตามแนวชายแดนได้ เนื่องจากกาสิโนดังกล่าวตั้งอยู่ในฝั่งกัมพูชาที่อยู่ห่างจากแนวชายแดนไทยเพียงแค่ 500 เมตรเท่านั้น

“ไม่เห็นด้วยและน่าเป็นห่วงมากกับนโยบายดังกล่าว เพราะจะเป็นการอาศัยช่องที่เราผลักดันให้ยกระดับด่านการค้าชายแดนจุดต่างๆ ให้เป็นด่านถาวร จากเดิมที่บางจุดเป็นเพียงแค่จุดผ่อนปรนชั่วคราว เพื่อรองรับการค้าชายแดน หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เพราะอาจจะทำให้ความเจริญ ทางเศรษฐกิจเข้าไปขยายตัวอยู่ในฝั่งกัมพูชามากกว่า” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ผลักดันให้เกิดกาสิโนใหม่นั้นมีอยู่ 6 แห่ง บริเวณด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ 2 แห่ง ได้แก่ บ่อนกาสิโน โรยัลฮิลล์กับโอร์ เสม็ด รีสอร์ท จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา บริเวณด่านช่องสะงำ 2 แห่ง ที่ศรีสะเกษ อยู่ในบุรีรัมย์ 1 แห่ง คือ ด่านช่องสาย ตะกู และอีก 1 แห่งที่ด่านช่องอานม้า อุบลราชธานี

นายนิมิต สิทธิไตรย์ ประธาน หอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการประชุมว่าด้วยการบริหารจัดการจุดผ่อนปรนการค้าช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กับจังหวัด พระวิหาร ประเทศกัมพูชา ซึ่งหากพัฒนาเป็นด่านถาวรจะทำให้การติดต่อค้าขายกับกัมพูชามีความสะดวกมากขึ้น แม้ว่าทางกัมพูชาจะมีนโยบายเปิดกาสิโนบริเวณด่านชายแดน แต่การดำเนินการอยู่ในกรอบข้อตกลงร่วมกัน ว่าด้วยความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งต้องพิจารณาให้รอบคอบถึงผลดีและผลเสียที่จะตามมา

ขณะที่ นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน กล่าวว่า การก่อสร้างบ่อนกาสิโน ใกล้ด่านชายแดนทั้ง 6 แห่ง ถ้ามองในระยะยาวจะทำให้ปริมาณการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น รวมถึงด้านการท่องเที่ยวด้วย