รุ่นใหม่สิงคโปร์เครียดค่าครองชีพสูง

ผลสำรวจเผย ราคาที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์แพง ส่งผลให้คนรุ่นใหม่กังวลถึงมาตรฐานชีวิต

แบบสำรวจโดย สิงคโปร์ โปลีเทคนิค เปิดเผยว่า ค่าครองชีพในสิงคโปร์ทะยานสูงขึ้นเป็นสิ่งที่กำลังสร้างความกังวลให้กับคนสิงคโปร์รุ่นใหม่

แบบสำรวจดังกล่าวได้ทำการสำรวจคน 825 คน ที่มีอายุระหว่าง 15-35 ปี พบเกือบทั้งหมดระบุตรงกันว่า ความมั่นคงทางการเงินเป็นหนึ่งในสิ่งที่ปรารถนาที่สุดในชีวิต นอกเหนือจากการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว และความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน

นอกจากนี้ เกือบทั้งหมดของผู้ตอบแบบสอบถามยังระบุตรงกันว่า หวังว่าราคาที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์จะถูก จนผู้ตอบแบบสอบถามสามารถเป็นเจ้าของได้ภายใน 5 ปี

ทว่าในปัจจุบัน สิงคโปร์ รั้งตำแหน่งที่ 7 ของประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ติด 1 ใน 10 ของประเทศที่มี ที่อยู่อาศัยแพงที่สุดในโลก

การขาดแคลนที่อยู่อาศัยส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยพุ่งสูงเกือบ 60% นับตั้งแต่ปี 2009  ในปัจจุบันห้องขนาด 1,000 ตร.ฟุต มีราคาเฉลี่ยสูงถึง 1 ล้าน - 1.2 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (ราว 25 - 30.8 ล้านบาท)

ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายสำหรับการขับรถก็สูงไม่แพ้กัน เนื่องจากกฎหมายสิงคโปร์ระบุว่า ผู้ขับจำเป็นต้องซื้อใบอนุญาตขับรถ (ซี.โอ.อี) ซึ่งใบอนุญาตสำหรับขับรถ 10 ปี มีราคาสูงถึง 72,396 เหรียญสิงคโปร์ (ราว 1.8 ล้านบาท)

จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากคนรุ่นใหม่ชาวสิงคโปร์จะกังวลว่า ตนจะมีเงินพอซื้อหามาตรฐานชีวิตที่ดีพอเท่ากับตอนที่ใช้ชีวิตอยู่กับผู้ปกครองหรือไม่?

เฟอร์เดาส์ สุกิมัน วัย 21 ปี ระบุกับทาง ซีเอ็นบีซีว่า กังวลกับค่าครองชีพที่สูงในสิงคโปร์

“ผมรู้สึกได้รับแรงกดดันอย่างมาก” สุกิมันกล่าว พร้อมเสริมว่า ผมต้องเก็บเงินเพื่อซื้อห้องชุดและแทบไม่มีโอกาสได้ใช้เงินเพื่อผ่อนคลายเล็กๆ น้อยๆ เช่น การซื้อเบียร์ดื่มสัปดาห์ละครั้ง

ขณะเดียวกัน บ๊อบบี้ เฉิน เจ้าของธุรกิจวัย 31 ปี ระบุกับทางซีเอ็นบีซีว่า เพื่อนของตนส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่กับครอบครัวเนื่องจากที่อยู่อาศัยแพงเกินกว่าจะซื้อได้

“สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ และค่าเช่าที่อยู่อาศัยแพง ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลที่จะอาศัยอยู่กับพ่อแม่ เว้นแต่คุณจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างมาก มิฉะนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะซื้อคอนโดฯ ตั้งแต่ยังหนุ่ม” เฉินกล่าว