สมรังสี ปลุกม็อบค้านผลเลือกตั้งเขมร

สมรังสี ปลุกม็อบประท้วงพรรคฮุนเซ็นโกงผลเลือกตั้ง วอนยูเอ็นเข้าตรวจสอบ  นักวิเคราะห์หวั่นบานปลายกลายเป็นความรุนแรงเหมือนอียิปต์

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ว่า สมรังสี แกนนำพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ประกาศปลุกระดมให้ประชาชนลุกขึ้นมาชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งที่มีขึ้นเมื่อปลายเดือนที่แล้ว เนื่องจากเชื่อว่าพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) เป็นฝ่ายปล้นชัยชนะผลการเลือกตั้งของพรรคฝ่ายค้านไป ทั้งนี้ การชุมนุมดังกล่าวเกิดขึ้นที่กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา

แกนนำฝ่ายค้านกัมพูชา ยังได้อ้างอีกว่า เจ้าตัวคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง และผลคะแนนการเลือกตั้งที่ถูกต้องนั้นควรจะเป็นพรรคซีเอ็นอาร์พี ชนะที่ 63 ที่นั่ง ต่อ 60 ที่นั่ง  ไม่ใช่ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ที่ทางการระบุ ว่า พรรคซีพีพี ของรัฐบาล ชนะการเลือกตั้งที่ 68 ที่นั่ง ส่วนพรรคฝ่ายค้านได้ที่ 58 ที่นั่ง

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชา ยังไม่ได้เปิดเผยผลการนับคะแนนการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการออกมา ขณะที่ พรรคฝ่ายค้านได้เรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามาตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้งด้วย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้ นักวิเคราะห์ด้านการเมืองมองว่า อาจนำไปสู่ความชะงักงันทางการเมือง และความรุนแรงขึ้นในกัมพูชาได้ ขณะเดียวกัน การลุกฮือดังกล่าวอาจจะทำให้การขึ้นเป็นผู้นำต่ออีกสมัยหลังจาก 5 ปีนี้เกิดความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

"ต้องยอมรับว่า นโยบายของพรรครัฐบาลเริ่มไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปได้แล้ว  และการควบคุมสื่อของ ฮุนเซ็น ก็ไม่สามารถควบคุมไว้ได้เหมือนในอดีต เพราะประชาชนสามารถเข้าถึงมูลจากโลกออนไลน์ได้เอง" เข็มเล นักวิเคราะห์อิสระด้านสังคมและการเมือง กล่าวให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ส

นักวิเคราะห์อิสระด้านสังคมและการเมือง รายดังกล่าว ระบุอีกว่า การลุกขึ้นมาบอยคอตผลการเลือกตั้งของพรรคฝ่ายค้าน อาจนำไปสู่การลุกฮือขึ้นประท้วงของคนรุ่นใหม่ เหมือนเช่นที่เกิดขึ้นในอียิปต์ในปัจจุบัน  

นอกจากนี้ เข็มเล  ได้ยกตัวอย่างขึ้นมาว่า ปัจจุบันข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในระดับล่าง เริ่มไม่พอใจข้าราชการระดับสูงที่ร่ำรวยมากขึ้น  เนื่องจาก ทั้งๆที่รัฐบาลให้คำมั่นสัญญาในการปรับเพิ่มเเงินเดือนของข้าราชการ และแรงงานในอุตสาหกรรมสิ่งทอแล้ว แต่อัตราเงินเดือนและค่าตอบแทนข้าราชการระดับล่าง ไปจนถึงแรงงาน กลับยังไม่ได้รับการแก้ไข และปรับเพิ่มตามที่รัฐบาลเคยให้สัญญาไว้เลย

ขณะเดียวกัน ประชาชนชาวกัมพูชาก็เริ่มไม่พอใจพรรคของนายกรัฐมนตรี ฮุนเซ็น มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยของสังคม  ขณะที่ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

"รัฐบาลอนุมัติให้ทุนต่างชาติเข้ามาครอบครองที่ดินในประเทศ ขณะที่คนจนก็ได้แต่ต่อสู้กับการเวนคืนอย่างไม่เป็นธรรม และมีความหวังน้อยมากที่จะได้รับความยุติธรรมจากตำรวจและศาล" เข็มเล กล่าว