ผลชันสูตรชี้ชัดเหยื่อนร.มะกันโดนยิงจนพรุน

ผลชันสูตรศพเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมมะกันพบเหยื่อถูกยิงมากกว่า 1 นัด ชาวอเมริกันจี้โอบามาเร่งแก้กฎหมายถือครองปืน

ผลการชันสูตรพลิกศพนักเรียนและครู 28 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงในโรงเรียนประถมแซนดีฮุก ในรัฐคอนเนกทิคัต สหรัฐ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. พบว่าเหยื่อทุกรายถูกยิงมากกว่า 1 นัด โดยนักจิตวิทยาชี้ว่า สะท้อนให้เห็นถึงความอำมหิตของฆาตกร ขณะที่อดีตครูของอดัม แลนซา ซึ่งเป็นมือปืน เปิดเผยว่า แลนซามีปัญหาทางจิตไม่สามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้

“ตลอดชีวิตการทำงาน 25 ปี ผมไม่เคยเจออะไรน่ากลัวอย่างนี้มาก่อน เด็กตัวน้อยๆ ถูกยิงจนพรุน โดยบางคนนั้นมีกระสุนกว่า 11 นัดฝังอยู่ในร่างกาย” เอช. เวย์น คาร์เวอร์ หัวหน้าทีมชันสูตร กล่าว พร้อมเผยว่า ในเบื้องต้นนั้นเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ครอบครัวของเหยื่อได้เห็นสภาพศพ เนื่องจากเกรงว่าจะทำใจไม่ได้

เอเดน ลีคาตา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่าว่า คนร้ายได้บุกเข้ามาในห้องเรียนและยิงครู นักเรียนในห้องจึงพยายามวิ่งหนีออกนอกประตูที่คนร้ายยืนเฝ้าอยู่ โดยมีเพียงไม่กี่คนที่รอดชีวิต

“หน้าของเขานิ่งมาก ไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ” ลีคาตา เล่าถึงวินาทีที่คนร้ายยิงครูประจำชั้น

ด้านประธานาธิบดีโอบามา ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของเหยื่อเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่บรรดาผู้นำทั่วโลก อาทิ ผู้นำอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และรัสเซีย ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นโศกนาฏกรรมกราดยิงภายในสถานศึกษาที่เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์สหรัฐ ส่งผลให้ชาวอเมริกันทั่วประเทศออกมากดดันให้รัฐบาลสหรัฐเร่งแก้ไขกฎหมายครอบครองอาวุธปืน เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในอนาคต

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากกลุ่มที่สนับสนุนการครอบครองปืน โดยเฉพาะสมาคมปืนยาวแห่งชาติอเมริกัน (เอ็นอาร์เอ) ยังคงมีอิทธิพลอย่างมากในเวทีการเมือง

วันเดียวกันได้เกิดเหตุกราดยิงที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐแอละแบมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน ขณะที่มือปืนถูกตำรวจวิสามัญเสียชีวิต