posttoday

การรักษาระดับโมเลกุล แนวทางใหม่ในการรักษาพาร์กินสัน

31 สิงหาคม 2565

พาร์กินสัน หนึ่งในโรคทางสมองที่สร้างผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างรุนแรง ในกรณีอาการหนักอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันถึงขั้นทำให้เป็นผู้ป่วยติดเตียง ร้ายแรงยิ่งกว่าคือจนปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปจากการรักษาระดับโมเลกุล

หลายประเทศในโลกโดยเฉพาะไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ โรคภัยที่จำเป็นต้องใส่ใจเฝ้าระวังจึงมีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะโรคทางสมองที่บางครั้งไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้า อีกทั้งหลายโรคยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างร้ายแรง

 

          หนึ่งในโรคทางสมองที่สร้างปัญหาให้แก่ผู้ป่วยคือ พาร์กินสัน ถือเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่ผู้ป่วยต้องทรมานกับอาการของโรคไปชั่วชีวิต แต่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อมีวิธีการรักษารูปแบบใหม่ที่ไม่มีผลกระทบกับร่างกาย รวมถึงอาจเป็นรากฐานในการพัฒนาแนวทางรักษาให้หายขาดในอนาคต

 

          แต่ก่อนอื่นคงต้องอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับโรคพาร์กินสันกันเสียหน่อย

การรักษาระดับโมเลกุล แนวทางใหม่ในการรักษาพาร์กินสัน

พาร์กินสัน โรคทางสมองที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน

 

          พาร์กินสัน หรือในชื่อไทย สันนิบาตลูกนก ถือเป็นอาการทางสมองรูปแบบหนึ่ง เกิดจากการเสื่อมของเซลล์บริเวณแกนสมอง ซึ่งทำหน้าที่ในการสร้างสารสื่อประสาทเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวบกพร่องจนไม่สามารถผลิตสารที่ชื่อว่า โดปามีน ขึ้นมาได้ ส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับระบบในร่างกาย

 

          โดยพื้นฐานนี่เป็นโรคที่สามารถพบได้เมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป พบมากในช่วงอายุ 65 – 80 ปี มักพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงถึง 1.5 เท่า ในประเทศไทยสัดส่วนผู้ป่วยมีมากถึง 1 คนต่อประชากร 1,000 ตน เป็นโรคทางสมองที่พบมากเป็นอันดับสอง รองจากโรคอัลไซเมอร์

 

          สาเหตุในการเกิดโรคนี้ปัจจุบันยังไม่มีข้อยืนยันสาเหตุของโรคแน่ชัด แต่ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดพาร์กินสัน ได้แก่

 

          - อายุเพิ่มมากขึ้นทำให้เซลล์สมองเริ่มเสื่อมไปตามวัย

 

          - การรับประทานยาที่มีผลต่อระบบประสาท โดยเฉพาะยารักษาความผิดปกติทางจิตและยากล่อมประสาท

 

          - ความผิดปกติทางสมอง เช่น หลอดเลือดสมองอุดตัน เส้นเลือดสมองแตก เนื้องอก ประสบอุบัติเหตุ ฯลฯ

 

          - การถ่ายทอดทางพันธุกรรม หากในบ้านมีประวัติป่วยพาร์กินสันมีโอกาสถ่ายทอดมาได้ราว 10 – 15%

 

          แม้ผู้ป่วยส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุแต่อันที่จริงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงวัย เช่น ไมเคิล เจ ฟอกส์ ดาราดังจากภาพยนตร์ Back to the future ทั้งสามภาค กลับล้มป่วยด้วยอาการนี้ขณะที่เขามีอายุได้เพียง 30 ปี นี่จึงถือเป็นโรคที่เกิดได้กับทุกช่วงวัย

 

          จึงไม่น่าแปลกใจที่ในปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคพาร์กินสันทั่วโลกมากกว่า 10 ล้านราย

 

          อาการของโรคพาร์กินสัน

 

          โดยพื้นฐานอาการของพาร์กินสันจะขึ้นกับแต่ละบุคคลว่ามากน้อยขนาดไหน แต่อาการของโรคจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่เฉียบพลันแบบโรคทางสมองชนิดอื่น เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นอาการจะยิ่งร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย โดยมีอาการดังนี้

 

          - ระยะแรก เริ่มจากอาการสั่นเมื่อร่างกายหยุดพักหรืออยู่นิ่งตามนิ้วมือหรือนิ้วเท้า โดยจะเป็นเพียงส่วนเดียว และจะเกิดอาการปวดตามกล้ามเนื้อแขน ขา และลำตัว

 

          - ระยะที่ 2 อาการลุกลามไปยังอวัยวะอีกข้าง หลังผู้ป่วยจะเริ่มงอ เดินตัวโก่ง เคลื่อนไหวได้ช้าลง การก้าวเท้าทำได้ในระยะสั้นๆ ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ดังเดิม

 

          - ระยะที่ 3 การทรงตัวผิดปกติ หกล้มได้ง่าย ลุกขึ้นยืนลำบาก เมื่อเดินจะทำให้ร่างกายเซไปด้านหน้า

 

          - ระยะที่ 4 ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลง อาการสั่นลดแต่จะแทนที่ด้วยอาการเกร็งของร่างกาย เคลื่อนไหวได้ช้ามากและไม่สามารถลุกขึ้นยืนหรือทรงตัวได้

 

          - ระยะที่ 5 กล้ามเนื้อเกร็งจนเคลื่อนไหวไม่ได้อีก กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง มือเท้าหงิกงอ เสียงพูดเบา ไม่สามารถแสดงความรู้สึกทางสีหน้า ไม่สามารถทานอาหารได้ มีความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนและการติดเชื้อต่างๆ สูง

 

          ด้วยเหตุนี้พาร์กินสันจึงเป็นโรคทางสมองร้ายแรงที่สามารถทำลายชีวิตคนได้ แต่น่าเสียดายในปัจจุบันวิธีการรักษาทั้งการใช้ยา กายภาพบำบัด หรือผ่าตัดฝังขั้วไฟฟ้าเพื่อกระตุ้นสมอง ทั้งหมดเป็นเพียงการทุเลาชะลออาการ ไม่สามารถทำให้ผู้ป่วยหายขาดจากอาการ

 

          แต่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปจากพบการวิจัยใหม่ที่ค้นพบวิธีรักษาพาร์กินสันถึงต้นตอ

 

การรักษาระดับโมเลกุล แนวทางใหม่ในการรักษาพาร์กินสัน

 

          การรักษาระดับโมเลกุล DNL201 ทางออกใหม่ของโรคพาร์กินสัน

 

          การวิจัยนี้เป็นผลงานของสถาบันวิจัย Denali Therapeutics ในซานฟรานซิสโก ได้ค้นพบวายีนภายในร่างกายชนิดหนึ่งที่ชื่อ LRRK2 การกลายพันธุ์ของยีนชนิดนี้ภายในร่างกาย สัมพันธ์กับการเกิดอาการพาร์กินสันของคนเรา และเมื่อยับยั้งกาทำงานของ LRRK2 ได้สำเร็จ อาการพาร์กินสันในตัวทดลองทั้งหนู ลิง จนถึงมนุษย์ล้วนมีออาการดีขึ้น

 

          สิ่งที่ทำให้การทำแบบนี้สำเร็จได้เกิดจาก DNL201 เป็นโมเลกุลสังเคราะห์ขนาดเล็กที่ลอดผ่านผนังเซลล์หลอดเลือดและสมอง ด้วยคุณสมบัตินี้จึงสามารถเขาไปยับยั้งการทำงานของ LRRK2 ด้วยปฏิกิริยาฟอสฟอรีเลชัน ซึ่งจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ของเซลล์ชนิดต่างๆ ช่วยให้ยีนที่ส่งผลต่ออาการของพาร์กินสันหยุดการทำงานจนอาการของโรคทุเลาลง

 

          งานวิจัยชิ้นนี้ผ่านการทดสอบทั้งกับหนูและลิงเป็นเวลาหลายอาทิตย์เพื่อตรวจสอบผลกระทบ เมื่อเห็นว่ามีโอกาสสำเร็จสูงจึงเริ่มผลักดันให้ลองใช้กับมนุษย์ โดยกลุ่มตัวอย่าง 150 คน ที่มีผู้ป่วยพาร์กินสัน 28 คน และอาสาสมัครทั่วไปอีก 122 คน ช่วยให้อาการของโรคพาร์กินสันในกลุ่มผู้ป่วยดีขึ้น และไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสุขภาพของบรรดาอาสาสมัคร

 

          แน่นอนว่านี่เป็นเพียงขั้นทดลอง การรักษาระดับโมเลกุลด้วย DNL201 ยังคงไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่ถือว่ามีความปลอดภัยสูงและช่วยยับยั้งการทำงานของ LRRK2 ที่เป็นต้นตอของโรคได้ ช่วยขยายขอบเขตการรักษาและชะลอการลุกลามของพาร์กินสันอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งจะกลายเป็นรากฐานความก้าวหน้าในงานวิจัยรักษาพาร์กินสันในอนาคต

 

          นอกจากนี้การรักษาระดับโมเลกุลยังเกี่ยวข้องกับโรคอีกหลายแขนง การยับยั้ง LRRK2 ด้วย DNL201 ยังถือเป็นก้าวใหม่ของวงการ ที่อาจช่วยขยายความเป็นไปได้ในการรักษาโรคอื่นๆ เช่น Hunter Syndrome หรือภาวะสมองเสื่อมส่วนหน้า ที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีน Granulin(GRN) อีกด้วย

 

 

          ถึงการรักษานี้ยังอยู่ในขั้นทดลองทางคลินิก ต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่จึงมีการนำมาใช้จริง แต่เป็นได้สูงว่านี่อาจเป็นแนวทางการรักษาใหม่สำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน ที่นอกจากเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพแล้ว หากได้รับการพัฒนาวิจัยต่อยังอาจช่วยรักษาให้หายขาดได้ รวมถึงอาจเป็นแนวทางรักษาโรคทาสมองที่เกิดจากพันธุกรรมได้อีกมาก

 

          ไม่แน่ว่าในอนาคตโรคทางสมองที่รักษาไม่ได้ในยุคนี้ อาจเป็นสิ่งที่สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ก็เป็นได้

 

 

 

          ที่มา

 

          https://www.thairath.co.th/scoop/1985117

 

          https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/Parkinson_disease

 

          https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/parkinsons-disease

 

          https://interestingengineering.com/molecule-therapy-against-parkinsons-disease

 

          https://www.science.org/doi/10.1126/scitranslmed.abj2658

 

 

ข่าวล่าสุด

ไปรษณีย์ไทย รับนโยบาย พร้อมเป็นช่องทาง ชำระภาษีนำเข้าต่างประเทศ