จากทะเลเหนือสู่ "อาหารไทย" การเดินทางและความยั่งยืนของทะเลนอร์เวย์
จากฟยอร์ดนอร์เวย์สู่ครัวไทย อาหารทะเลคุณภาพสูงสะท้อนความยั่งยืน การเพาะเลี้ยงอย่างรับผิดชอบ และการเชื่อมวัฒนธรรมอาหารระหว่างสองประเทศในเทศกาล Seafood from Norway Festival 2025
อาหารทะเลจากนอร์เวย์เป็นผลผลิตของธรรมชาติที่มีความเฉพาะตัวและระบบการจัดการที่มีความละเอียดอ่อน ก่อรูปขึ้นภายใต้ภูมิประเทศที่ไม่เหมือนใครของคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ทั้งฟยอร์ดลึก น้ำทะเลเย็นใสตลอดปี และระบบนิเวศที่มีความเสถียร ทำให้นอร์เวย์เป็นหนึ่งในพื้นที่หายากที่สามารถเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเชิงอุตสาหกรรมได้โดยไม่ทำลายลักษณะดั้งเดิมของทะเลเหนือ
ปัจจัยเหล่านี้ผสานกับเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสมัยใหม่ ตั้งแต่ระบบเฝ้าระวังคุณภาพน้ำแบบเรียลไทม์ ไปจนถึงการออกแบบกรงเลี้ยงที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้นอร์เวย์กลายเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ของโลกในปี 2568
แม้ตัวเลขการส่งออกจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือการที่ “วัตถุดิบจากทะเลเหนือ” ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าสู่วัฒนธรรมอาหารของประเทศต่าง ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ด้วยการผลักดันเชิงการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะผู้บริโภคในยุคใหม่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ วัตถุดิบที่ผลิตอย่างโปร่งใส และการดูแลระบบนิเวศมากขึ้นเรื่อย ๆ
กระแสนี้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในวิธีที่ผู้คนคิดเกี่ยวกับอาหารไม่ใช่แค่การกินเพื่อความอร่อย แต่เพื่อเชื่อมโยงกับที่มา ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตที่ยั่งยืนกว่าเดิม
เส้นทางของอาหารทะเลนอร์เวย์ในประเทศไทย จากครัวญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารไทย
เส้นทางของอาหารทะเลนอร์เวย์ในไทยเริ่มต้นจากการแลกเปลี่ยนกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นเมื่อราวสี่ทศวรรษก่อน แซลมอนจากนอร์เวย์ถูกนำไปทดลองใช้ในเมนูซูชิและซาชิมิของญี่ปุ่น ก่อนจะได้รับความนิยมแพร่หลายและขยายมายังร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทย ปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นกว่า 5,700 แห่งทั่วไทยกลายเป็นจุดเชื่อมสำคัญระหว่างผู้บริโภคไทยกับปลาแซลมอน ฟยอร์ดเทราต์ และซาบะจากทะเลเหนือ การขยายตัวของวัฒนธรรมการกินอาหารญี่ปุ่นในไทยจึงมีบทบาทสำคัญต่อความแพร่หลายของอาหารทะเลเหล่านี้
แต่ความน่าสนใจคือ ภายในเวลาไม่กี่ปี วัตถุดิบจากทะเลเหนือได้ “หลุดพ้นจากกรอบญี่ปุ่น” และกลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำอาหารไทยสมัยใหม่ คนไทยเริ่มทดลองใช้แซลมอนในเมนูอบ เมนูผัด ต้มยำ แกง หรือแม้แต่ในยำรสจัดจ้าน โดยไม่มองว่าเป็นอาหารต่างชาติอีกต่อไป ความยืดหยุ่นนี้สะท้อนทักษะการตีความวัตถุดิบของผู้บริโภคไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์และพร้อมเปิดรับวัตถุดิบใหม่ ๆ หากมันตอบโจทย์คุณภาพและรสชาติ
ในเชิงสังคม การเติบโตของความนิยมอาหารทะเลจากนอร์เวย์ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องการอาหารทำง่าย คุณค่าทางโภชนาการสูง และมีความโปร่งใสด้านที่มา เมนูง่าย ๆ เช่น แซลมอนอบกับเลมอนและผักชีลาวซึ่งปรุงได้ภายในไม่กี่นาที จึงกลายเป็นภาพคุ้นตาในบ้านของคนรุ่นใหม่
ตัวแทนหัวใจของความสัมพันธ์ไทย–นอร์เวย์คือ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ผู้ทำหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ของ Seafood from Norway ประเทศไทย ด้วยพื้นเพที่ผสมผสานสองวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ชีวิตครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นของเธอ ทำให้ทั้งสองวัฒนธรรมถูกให้ความสำคัญและมีการเฉลิมฉลองร่วมกันอยู่เสมอ พร้อมสร้างช่วงเวลาน่าจดจำบนโต๊ะอาหารในทุกมื้อ
ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ เล่าว่า “สิ่งที่ญ่ารักมากอย่างหนึ่งเกี่ยวกับรากเหง้าของตัวเอง คือวัฒนธรรมอาหารที่สามารถดึงทุกคนให้มารวมกันได้ และครัวที่เปรียบเสมือนหัวใจของบ้าน ครอบครัวเราจะกินข้าวพร้อมหน้ากันเสมอ ทำอาหารด้วยเมนูจากอาหารทะเลนอร์เวย์หลากหลายแบบ บางวันก็ผสมกับอาหารสไตล์ไทย ๆ ด้วย เมนูที่ทำให้คิดถึงบ้านและช่วงวัยเด็กทันทีคือแซลมอนอบ (Baked Salmon) ที่คุณพ่อทำได้อร่อยมาก ๆ ถ้าที่บ้านมีเตาอบ แค่นำแซลมอนใส่ในฟอยล์ วางเลมอนสามชิ้นด้านบน แล้วโรยผักชีลาวไว้ข้าง ๆ ง่ายมากและอร่อยสุด ๆ ค่ะ”
ความยั่งยืน แก่นของอุตสาหกรรมที่ต้องตอบโจทย์โลกอนาคต
หัวใจสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมอาหารทะเลของนอร์เวย์พัฒนาอย่างมั่นคงคือ “แนวคิดความยั่งยืนที่ลงมือทำจริง” ไม่ใช่แค่หลักการบนกระดาษ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของนอร์เวย์ถูกออกแบบเพื่อควบคุมผลกระทบต่อระบบนิเวศให้น้อยที่สุด ตั้งแต่การควบคุมประชากรพยาธิปลา การใช้เทคโนโลยีป้องกันการหลุดรอดสู่ทะเล การลดการใช้ยาปฏิชีวนะ ไปจนถึงการเลือกพื้นที่เพาะเลี้ยงที่มีความสามารถในการฟื้นตัวสูง
ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (traceability) ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยมั่นใจว่าอาหารทะเลที่ซื้อมีความปลอดภัยและมีคุณภาพสม่ำเสมอ ความโปร่งใสลักษณะนี้สอดคล้องกับเทรนด์ของผู้บริโภคทั่วโลกที่ต้องการรู้ว่าอาหารมาจากไหนและถูกผลิตอย่างไร
เทศกาล Seafood from Norway Festival 2025 เมื่ออาหารทะเลกลายเป็นประสบการณ์วัฒนธรรม
ในประเทศไทย การจัดงาน Seafood from Norway Festival 2025 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการทำความเข้าใจวัตถุดิบจากทะเลเหนือผ่านมุมมองที่ลึกขึ้นกว่าการกินเพียงอย่างเดียว งานนี้นำเสนอ “ประสบการณ์อิมเมอร์ซีฟป๊อปอัพขนาดใหญ่” ที่จำลองหมู่บ้านชายฝั่งนอร์เวย์มาไว้กลางกรุงเทพฯ ไม่ใช่ในฐานะงานขายอาหาร แต่เป็นพื้นที่ที่ให้ผู้คนได้สัมผัสภูมิประเทศ ธรรมชาติ ผู้คน และระบบการผลิตอาหารทะเลที่ยืนอยู่บนแก่นความยั่งยืน
สิ่งที่ทำให้เทศกาลนี้น่าสนใจก็คือ มันสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของวิธีการสื่อสารอาหารในยุคใหม่จากเดิมที่วัตถุดิบถูกเล่าเรื่องผ่านเมนูหรือคำบรรยาย ตอนนี้กลับถูกถ่ายทอดผ่านประสบการณ์แบบครบวงจร ผู้เข้าชมได้เห็นเครื่องมือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้เรียนรู้การจัดการฟาร์ม ได้สัมผัสเรื่องราวของชาวประมงนอร์เวย์ รวมถึงได้ชิมเมนูจากเชฟที่ตีความวัตถุดิบเหล่านี้ในรูปแบบหลากหลาย
นับเป็นการ “สร้างความเข้าใจร่วมกัน” ระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคในโลกที่ผู้คนต้องการความโปร่งใสในการผลิตอาหารมากขึ้น เทศกาลนี้จึงกลายเป็นสื่อกลางที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง อีกด้านหนึ่งยังสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับนอร์เวย์ที่สืบต่อมาอย่างยาวนาน การนำเรื่องราวของฟยอร์ด ทะเลเหนือ และวิถีชีวิตชาวประมงมาเล่าในกรุงเทพฯ ชี้ให้เห็นว่าการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอาหารในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้เกิดจากการค้าขายเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการเชื่อมโยงระดับลึก ตั้งแต่ทรัพยากรธรรมชาติจนถึงความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อมและการกินอย่างรับผิดชอบต่อโลก


