The House 94 บ้านความทรงจำสไตล์ Tropical Modern x อาหารไร้พรมแดน
ร้านอาหารจากบ้านเก่ารีโนเวทสู่โอเอซิสใจกลางซอย 31 แรงบันดาลใจจากดีไซเนอร์เดนมาร์ก พร้อมเปิดประสบการณ์ Borderless Cuisine ที่เล่าเรื่องผ่านวัตถุดิบโลก
KEY
POINTS
- The House 94 คือร้านอาหารที่รีโนเวทจากบ้านเก่าในยุค 70s ย่านสุขุมวิท 31 ตกแต่งในสไตล์ Tropical Modern ให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำของครอบครัว
- นำเสนอคอนเซ็ปต์ "อาหารไร้พรมแดน" (Borderless Cuisine) ที่ไม่จำกัดกรอบ โดยผสมผสานวัตถุดิบและเทคนิคการทำอาหารจากทั่วทุกมุมโลก
- รังสรรค์เมนูโดยทีมเชฟมากประสบการณ์ที่ผสมผสานรสชาติจากหลากหลายวัฒนธรรม เช่น ไทย อิตาเลียน ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง เข้าไว้ในจานเดียวกันอย่างลงตัว
ใจกลางซอยสุขุมวิท 31 ท่ามกลางแมกไม้อันเขียวขจี และต้นก้ามปูที่ยืนต้นมานานกว่า 100 ปี พาเราไปด้พบกับ The House 94 ร้านอาหารที่เปรียบเสมือนโอเอซิสในบ้านสไตล์ Tropical Modern ที่ไม่เพียงแต่เสิร์ฟเมนูอาหารสุดพิเศษ แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการเล่าเรื่องราวผ่านดีไซน์ วัฒนธรรม และความทรงจำของครอบครัว
โพสต์ทูเดย์ได้โอกาสมาเยี่ยมชม และชิมอาหารที่ The House 94 ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ทราบกันดีว่ากลางสุขุมวิทคือใจกลางเมืองและจอแจไปด้วยสิ่งก่อนสร้างรถราแน่นขนัด แต่เมื่อเข้ามาถึงสถานที่แห่งนี้ กลับรู้สึกเย็นสบายเหมือนเจอ OASIS กลางทะเลทราย
บ้านหลังนี้ถูกรีโนเวทจากบ้านเก่าที่สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 ซึ่งเป็นยุคที่ประเทศไทยเริ่มได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ (Modernism) จากตะวันตก แต่ในวันนี้ บ้านหลังนี้ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งภายใต้แนวคิด “บ้าน” ในบรรยากาศอบอุ่น ที่พร้อมเชื้อเชิญทุกคนให้มาแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกัน
แรงบันดาลใจจากสายเลือดนักออกแบบชาวเดนมาร์ก
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการรังสรรค์บ้านหลังนี้ให้กลายเป็นร้านอาหารแห่งความทรงจำคือ Mr. Hans Bogetoft Christensen ผู้ก่อตั้งและ Chief Creative Officer ชาวเดนมาร์ก
ฮันส์เผยถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาตัดสินใจสร้างสรรค์ The House 94 ว่า "ผมตกหลุมรักบ้านหลังนี้ทันทีตั้งแต่แรกเห็น" ไม่ใช่แค่ตัวอาคาร แต่รวมถึงพื้นที่กลางแจ้งที่มีต้นไม้ใหญ่อันร่มรื่น สระว่ายน้ำ ไปจนถึงห้องเรือนกระจกที่ให้ความรู้สึกเสมือนพื้นที่ส่วนตัว
สถานที่แห่งนี้ทำให้เขาอดคิดถึง บ้านในวัยเด็ก ของตัวเองไม่ได้ ฮันส์เล่าว่าเขาเติบโตมาในบ้านหลังใหญ่กับครอบครัวใหญ่ที่ชอบต้อนรับแขก
โดยมี ห้องครัวเป็นหัวใจของบ้าน ที่ทุกคนมารวมตัวกันรอบโต๊ะเพื่อแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุข
ยิ่งไปกว่านั้น คุณพ่อของเขาสนใจเรื่องการออกแบบมาก และมักพาเขาไปประมูลหรือเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอยู่เสมอ
สิ่งเหล่านี้ได้หล่อหลอมให้เขามี "สายเลือดหรือ DNA แห่งนักออกแบบมาตั้งแต่เด็ก" และ DNA นี้เองที่ถูกถ่ายทอดลงในทุกองค์ประกอบของ The House 94
ดีไซน์ที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวผ่านกาลเวลา
The House 94 ถูกออกแบบให้สะท้อนถึงชีวิตครอบครัวในแต่ละทศวรรษ ตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คุณพ่อคุณแม่ จนถึงรุ่นปัจจุบัน การตกแต่งภายในจึงเหมือนบทเรียนเล็ก ๆ ในประวัติศาสตร์
ภายในร้านเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจ งานศิลปะ ไปจนถึงงานศิลป์ร่วมสมัย โดยการออกแบบใช้สีโทนอ่อนจับคู่กับวอลล์เปเปอร์ลายจัดจ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่แปลกตาแต่อบอุ่นและโปร่งสบาย
นอกจากนี้ยังมีโซนเลานจ์ที่ผนังตกแต่งด้วยไม้สีเข้ม พร้อมบาร์ค็อกเทลสไตล์ย้อนยุคที่ให้ความรู้สึกถึงยุค 70s ทุกองค์ประกอบนี้เองที่ช่วยเติมเต็มชีวิตชีวาและบุคลิกเฉพาะตัวให้กับบ้าน
อาหารคือสายใยแห่งความสุข: คอนเซ็ปต์ "Borderless Cuisine"
ฮันส์เชื่อว่า อาหารคือภาษาสากลที่เชื่อมโยงผู้คนได้โดยไม่ต้องมีคำบรรยายใด ๆ และนี่คือที่มาของแนวคิด “Borderless Cuisine” หรือ เมนูหนึ่งเดียวในโลกที่ไร้พรมแดน
The House 94 ไม่ได้เป็นเพียงร้านอาหาร แต่เป็นสถานที่ที่เปิดกว้างให้เชฟได้เล่าเรื่องผ่านจานอาหารได้อย่างอิสระ เมนูพิเศษเหล่านี้ได้รับการรังสรรค์ขึ้นโดยทีมมาสเตอร์เชฟฝีมือดีที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์
• Mr. Morten Bojstrup Nielsen (Group Executive Chef ชาวเดนมาร์ก) และทีมเชฟได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์การเดินทาง ความหลากหลายของวัฒนธรรม และความกล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่ยึดติดกับกรอบเดิม พวกเขาพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบและเครื่องปรุงจากทั่วทุกมุมโลกมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เพื่อสร้างรสชาติที่สดใหม่และไม่เหมือนใคร
• เชฟกอล์ฟ ประวิทย์ อุดมพรประสิทธิ์ (Executive Chef) ผู้มากประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศ ชื่นชอบและสนุกกับการทำอาหารที่ไม่เหมือนใคร เขาพิถีพิถันด้านการคัดสรรวัตถุดิบโดยคำนึงถึงคุณภาพ แหล่งที่มา ฤดูกาล และความสัมพันธ์ของรสชาติ ทั้งวัตถุดิบท้องถิ่นและวัตถุดิบนำเข้า และผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อสื่อสารเรื่องราวผ่านจานอาหารไปยังลูกค้า
ผลลัพธ์ที่ได้คือสุดยอดประสบการณ์ด้านอาหารใหม่ ๆ ที่มีความหมายและความลึกซึ้ง เมนูต่าง ๆ ได้ผสานความเป็นไทย อิตาเลียน ญี่ปุ่น และตะวันออกกลางไว้อย่างกลมกล่อม เช่น Crab Salad ที่ใช้เนื้อปูม้าสดจากสตูล คลุกเคล้ากับเครื่องเทศ เสิร์ฟคู่กับ Granita น้ำแข็งไสสไตล์อิตาลี ที่ทำจากแอปเปิ้ลเขียวและสาเกญี่ปุ่น หรือเมนูของหวานอย่าง Ginger Dessert ที่มีรูปร่างคล้ายขิง แต่เต็มไปด้วยไส้ขิงเชื่อมผสมเลมอน หุ้มด้วยมูสน้ำผึ้งวานิลลา ให้รสชาติที่หอมหวานและมีความเผ็ดร้อนของขิงซ่อนอยู่
7 เมนูพิเศษที่ไม่ควรพลาด
● Ribs Chop – เนื้อหมู Imo Buta (หมูที่เลี้ยงด้วยมันม่วง) ส่วน Ribs Chop ที่ชุ่มฉ่ำ เนื้อนุ่มกว่า Pork Chop ทั่วไป ย่างด้วยซอสบ๊วยดองญี่ปุ่น น้ำผึ้ง และโชยุ เสิร์ฟคู่กับ Apple Puree และ Cognac Mustard ที่หมักกับน้ำแอปเปิ้ลและคอมบูฉะ นาน 7-10 วัน จากนั้นหมักด้วยบรั่นดีจากฝรั่งเศส จนกลายเป็น Cognac Mustard จึงเป็น Signature Menu ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
● Red Snapper – ปลากระพงแดงจากสุราษฎร์ธานี หมักกับสาหร่ายคอมบุเพื่อซึมรสชาติอูมามิ ตากหนังปลา 2-3 วัน เมื่อนำมาย่างจะได้ความหอมกรุ่น หนังกรอบสมบูรณ์แบบ เนื้อปลาสดขาวนุ่ม เสิร์ฟกับซอสสไตล์ซัลซ่าที่ใช้พริก Habanero ที่ Fermented กับน้ำผึ้ง ให้ความแปลกใหม่ที่ลงตัว
Appetizers
● Ceviche – ปลากระมงรีดเลือด (Ikejime) จากสุราษฎร์ธานี แล่เสิร์ฟสไตล์ปลาดิบ ทานกับซอสที่ทำจาก Sea Buckthorn ซี บัคธอร์น (เบอรี่สีส้มสดจากชายฝั่งทะเลแถบยุโรป) และฝรั่งไส้แดง พร้อมส้มคัมควอท (ส้มจี๊ด) จากสวนบ้าน 94 เรียกคืนความสดชื่นและเปรี้ยวอมหวานแบบคลาสสิก
● Burrata – การผสมผสานข้ามวัฒนธรรมที่น่าทึ่ง ด้วยชีส Burrata เสิร์ฟกับซอสงาถั่วสไตล์จีน คล้ายน้ำจิ้มสุกี้เพิ่มน้ำมันงา เลมอนรายู และ Dukkah ดุกคา (เฮเซลนัทและอัลมอนด์บดกับเครื่องเทศ) โรยด้วยผักร็อกเก็ต จานเดียวที่รวมสไตล์จีน อิตาเลียน และตะวันออกกลางอย่างกลมกล่อม
● Crab Salad – เมนูที่เชฟภูมิใจนำเสนอ ใช้เนื้อปูม้าสดจากชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล คลุกเคล้ากับ Cream Fraiche ยอดมะพร้าวอ่อน และเครื่องเทศต่าง ๆ เสิร์ฟกับ Granita น้ำแข็งไสสไตล์อิตาลี ทำจากแอปเปิ้ลเขียว แตงกวา น้ำมะนาว ใบชิโสะ และสาเกญี่ปุ่น เพิ่มความหอม เย็น ชื่นใจ – เมนูที่มีการผสมผสานความเป็นไทย อิตาเลียน และญี่ปุ่นอยู่ในจานเดียวกันได้อย่างลงตัว
เมนูของหวาน ใจละลาย
● Burnt Cheesecake – Basque Cheesecake ที่ใช้ชีส Gruyere เสิร์ฟกับครีมคาราเมลกล้วยน้ำว้าและมะม่วงสุก ท็อปด้วยสับปะรดหอมสุวรรณเชื่อมน้ำเชื่อมดอกส้ม พร้อม Tropical Sauce จากน้ำสับปะรด กลิ่นดอกส้ม และมะม่วงน้ำดอกไม้ ตัดความเข้มข้นด้วยความสดชื่นเขตร้อน
● Ginger Dessert – ขนมรูปร่างขิงที่ล้อกับคอนเซ็ปต์ The House 94 และร้านในเครือ Ginger Farm มีไส้ขิงเชื่อมผสมเลมอน หุ้มด้วยมูสน้ำผึ้งวานิลลา และ Feuilletine (บิสกิตกรอบผสมช็อกโกแลต) ให้รสหอมหวานน้ำผึ้งและวานิลลา ซ่อนรสเลมอนเปรี้ยวหวานและความเผ็ดร้อนของขิง ด้านล่างโรยด้วยแครกเกอร์เพิ่ม texture ความกรุบกรอบ ถือเป็นของหวานที่อร่อยลงตัวฟินสุดๆ
The House 94 จึงเป็นจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสรสชาติอาหารแบบไร้พรมแดน ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ในบรรยากาศอันแสนอบอุ่นและร่มรื่นราวกับได้มาเยือนบ้านเพื่อนสนิท


