ผีตายยาก ! แมนยู ชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 เข้ารอบรองฯเอฟเอ คัพ แบบสุดดราม่า

ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม บิ๊กแมตช์แดงเดือด แมนยู เปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด พบกับลิเวอร์พูล 

เปิดฉากมา 10 นาทีเป็นแมนยูที่ขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่อเลฮานโดร การ์นาโช่ หลุดไปยิงโดนเคลเลเฮอร์เซฟได้ แต่ไปเข้าทางสกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ซ้ำดาบสองเข้าไป 

เกมของแมนยูยังคึกคักและทำเกมบุกได้น้ำได้เนื้อ มีโอกาสยิงจ่อๆหลายครั้งจากแม็คโทมิเนย์ และบรูโน่ แฟร์นันเดส แต่ติดเซฟ เคลเลเฮอร์ออกหมด

จากนั้นลิเวอร์พูลเริ่มทำเกมบุกได้บ้างและกดดดันแมนยูได้หลายครั้ง ก่อนที่ทำนบแมนยูจะแตกในช่วง ท้ายครึ่งแรก

นาทีที่ 44 ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ควอนซาห์ทำเกมบุกไปถึงเขตโทษแมนยู บอลไปถึงนูนเญซ ไหลต่อให้ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ กดเสียบเสาแรกเข้าไป

ช่วงทดเจ็บนาที 45+2 หงส์แดงแซงนำ 2-1 จากการยิงโล่งๆของ โม ซาลาห์ นับเป(นประตูที่ 13 ที่ซาลาห์ยิงใส่แมนยูได้ทุกนัดที่พบกันด้วย

จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ 2-1 

ครึ่งหลังเกมเป็นของลิเวอร์พูอย่างสิ้นเชิง เมื่อครองบอลได้มากกว่าจนผู้เล่นแมนยูหาบอลไม่เจอ

จากนั้นทีมหงส์แดงยังมีโอกาสเข้าทำหลายครั้งแต่ยังไม่คมพอ

เกมของแมนยูที่กำลังซึมเศร้ากลับมาคึกทันทีเมื่อพวกเขาตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 87 จากการหมุนยิงด้วยขวาของแอนโทนี่ 

ท้ายแมนยูที่กลับมาคึกไล่บี้แหลกจนลิเวอร์พูลไม่ได้บุกเกินครึ่งสนาม และน่าจะได้สุดๆในช่วงทดเวลาเจ็บนาทีสุดท้ายเมื่อมาร์คัส แรชฟอร์ดหลุดเดี่ยวไปโล่งๆ แต่ยิงออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

จบ 90 นาทีเสมอกัน 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปเพื่อหาผู้ชนะ 

ช่วงทดเวลาเจ็บ นาทีที่ 105 เป็นลิเวอร์พูลขึ้นนำ 3-2 จากลูกยิงของฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่ซัดแฉลบคริสเตียน เอริคเซ่น เปลี่ยนทางเข้าประตูไป 

ครึ่งหลังของช่วงต่อเวลาพิเศษ แมนยูลุยแหลก และนาทีที่ 112 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮลั่นเมื่อแมนยูตีเสมอ 3-3 จากการยิงของมาร์คัส แรชฟอร์ด 

นาทีสุดท้ายของช่วงต่อเสบาพิเศษเป็นแมนยูแซงนำ 4-3 จากจังหวะสวนกลับ ที่การ์นาโช่เปิดบอลให้ อาหมัด ดิยาโล่ หลุดไปยิงด้วยซ้ายเสียบเสาสองเข้าไป และอาหมัดโดนใบเหลืองแดงไล่ออกจากสนามจากจังหวะนี้ด้วย

จบ 120 นาที แมนยูไนเต็ดโกงความตายพลิกกลับมาชนะ 4-3 แมนยูไนเต็ด เข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ