ภูมิพลเต็ม100% มวลน้ำเจ้าพระยาทะลักสิงห์บุรี ราษฎรเดือดร้อน16,000คน
คันกั้นน้ำสิงห์บุรีแตก เขื่อนเจ้าพระยาปล่อย 2,900 ลบ.ม.มวลน้ำหลากท่วม 3 อำเภอ กระทบกว่า 16,000 คน อยุธยา–อ่างทอง–สุพรรณฯ น้ำท่วมรวมกว่า 8 แสนไร่ กรมชลฯ เร่งระดมสูบน้ำ
KEY
POINTS
- การเร่งระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนภูมิพลที่มีปริมาณน้ำเต็มความจุ เป็นสาเหตุให้คันกั้นน้ำใน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พังทลาย
- มวลน้ำได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างฉับพลัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 6,000 ครัวเรือน หรือประมาณ 16,486 คน
- สถานการณ์ภาพรวมยังวิกฤต เนื่องจากเขื่อนหลัก 4 แห่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำสูงเกือบเต็มความจุและยังคงต้องระบายน้ำต่อเนื่อง
เมื่อมวลน้ำจากลุ่มเจ้าพระยาทะลักลงสู่พื้นที่ลุ่มต่ำ แรงดันระดับสูงจากเขื่อนเจ้าพระยา—ที่จำเป็นต้องเร่งระบายถึง 2,900 ลบ.ม./วินาที—ทำให้ คันกั้นน้ำบริเวณหมู่ 4–5 ต.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พังทลายลงในเวลา 16.40 น. ของวันที่ 12 พฤศจิกายน สายน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างฉับพลัน กระทบ 6,036 ครัวเรือน รวมกว่า 16,486 คน แม้ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ระดับน้ำที่เอ่อเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำยังคงน่ากังวล
สถานการณ์น้ำที่สถานี C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมืองฯ วัดระดับได้ 13.17 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 23 เซนติเมตร ขณะค่าฝนสะสมในอินทร์บุรียังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สะท้อนแรงกดดันที่ยังไม่สิ้นสุดต่อแนวป้องกันน้ำของจังหวัดตอนกลางฝั่งเจ้าพระยา
ภาพรวมทั้งระบบน้ำ สทนช. รายงานว่าอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีน้ำรวม 89% ของความจุ โดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลักพุ่งแตะจุดวิกฤต:
• เขื่อนภูมิพล 100%, ไหลเข้า 65 ล้าน ลบ.ม./วัน ระบายน้ำกว่า 55 ล้าน ลบ.ม.
• เขื่อนสิริกิติ์ 98%, เขื่อนแควน้อย 101%, เขื่อนป่าสัก 96%
ทั้งหมดเร่งระบายน้ำเพื่อรักษาความปลอดภัยตัวเขื่อน แต่ย่อมหมายถึงความเสี่ยงของพื้นที่ท้ายเขื่อนด้วยเช่นกัน
ระดับน้ำไหลผ่าน C.2 จ.นครสวรรค์สูงถึง 2,976 ลบ.ม./วินาที ขณะที่ C.29B ปทุมธานีอยู่เพียง 0.28 ม. ต่ำกว่าตลิ่ง ชี้ชัดว่าระบบน้ำเจ้าพระยากำลังตึงตัวทั้งเส้นทางเหนือ–ใต้
ด้านปลายน้ำ GISTDA ตรวจพบมวลน้ำท่วมขังใน อยุธยา–อ่างทอง–สุพรรณบุรี–นครปฐม รวมกว่า 813,817 ไร่ มีทั้งน้ำใหม่สีน้ำตาลที่เพิ่งทะลักเข้าพื้นที่ และน้ำท่วมขังสีเข้มที่นิ่งอยู่มาหลายวัน กระจายกินพื้นที่ลึกเข้าเขตชุมชน เกษตรกรรม และเส้นทางคมนาคมสำคัญ
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังต้องจับตาอย่างเข้มข้น กรมชลประทาน กระจายทีมลงพื้นที่ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำหลายจุด ตั้งแต่นครสวรรค์ สุโขทัย อุบลราชธานี อยุธยา อ่างทอง ชัยนาท ไปจนถึงสระบุรี ควบคู่กำจัดวัชพืชเปิดทางน้ำเพื่อเร่งระบายให้เร็วที่สุด
ยังต้องลุ้นว่าการระบายเร่งด่วนจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนเจ้าพระยา ที่ยังไม่มีวี่แววลดระดับ จะสร้างแรงกดดันต่อคันกั้นน้ำลุ่มกลางอีกมากเพียงใด ขณะที่มวลน้ำหลายแสนไร่ยังรอการระบายลงทะเลต่อไป
ที่มา : กรมชลประทาน , กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย , GISTDA , สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ภาพปก : สมาคมสื่อมวลชนสิงห์บุรี
เรียบเรียง : อมรเดช ชูสุวรรณ บรรณาธิการข่าวการเมือง