สรุปปมไม่ตั้ง “เลขาธิการกสทช.” กับ 5 คดี 4 กสทช.ถูกฟ้องเพ่ง-อาญา
ศาลเพ่ง ยกฟ้อง กรณี “สรณ” ประธาน กสทช. ฟ้อง “ธนพันธุ์” กรรมการ กสทช. ให้ชดใช้เงินจำนวน 5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย 5% ต่อปี จากการให้ข้อมูลการสรรหาเลขาธิการ กสทช. ฝ่าฝืนต่อความจริง
พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กรรมการ กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ศาลเพ่งได้เผยแพร่คำพิพากษา “ยกฟ้อง” คดีแพ่ง 4571/2567 ลงวันที่ 17 ต.ค.2567 กรณี “โจทก์” ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. (“สรณ”) ได้ฟ้อง “จำเลย” พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. (“ธนพันธุ์”) ต่อกรณีที่จำเลยได้ให้ความเห็นในการประชุม กสทช.นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2566 ในวาระที่เกี่ยวกับการสรรหาเลขาธิการ กสทช. ว่าเป็นอำนาจของกรรมการ กสทช.ทั้งคณะมิใช่อำนาจของประธาน กสทช. แต่เพียงผู้เดียว และการกระทำของโจทก์ไม่ถูกต้อง รวมทั้งได้ให้ข้อมูลดังกล่าวแก่นางสุรางคณา วายุภาพ อดีตผู้เข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กสทช. ตามที่ร้องขอ
ส่งผลให้ “สรณ” ได้ยื่นฟ้อง โดยกล่าวหาว่า “ธนพันธุ์” ได้ทำละเมิดโดยกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นการใส่ความทำให้ “สรณ” ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ มาตรา 423 นั้น
ล่าสุด ศาลได้พิพากษา “ยกฟ้อง” โดยมีความเห็นสรุปว่า การที่จำเลยมีความเห็นตามที่ระบุในรายงานสรุปว่า “การกระทำของโจทก์ตามที่ระบุในบันทึกข้อความดังกล่าวนั้น ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อหลักความเป็นกลาง ขัดต่อหลักความเสมอภาค ก่อให้เกิดการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ ก่อให้เกิดกระบวนการที่ไม่โปร่งใสและไม่เป็นไปตามมาตรฐานการสรรหาหัวหน้าหน่วยงานในลักษณะเกี่ยวกัน ...” นั้นความเห็นดังกล่าวเป็นเพียงข้อวินิจฉัยที่จำเลยแสดงออกตามที่เห็น รู้ หรือ คิด ไม่อาจเป็นจริงหรือเท็จได้ ประกอบกับจำเลยแสดงความคิดเห็นเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ในฐานะ กรรมการ กสทช. ย่อมมีสิทธิกระทำได้
และแม้ว่าจำเลยได้ส่งบันทึกข้อความดังกล่าวให้แก่นางสุรางคณาฯ ก็เป็นเพียงแจ้งให้ทราบว่าจำเลยไม่เห็นด้วยกับการกระทำของโจทก์เกี่ยวกับกระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช. ดังนั้นการกระทำของจำเลย จึงไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ จึงมีคำพิพากษา “ยกฟ้อง”
พลอากาศโท ธนพันธุ์ฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นหนึ่งในอีกหลายคดี ที่ 4 กสทช. (พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย และ รศ.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์) โดนฟ้อง ซึ่งมีมูลเหตุมาจากกรณีที่ 4กสทช. เห็นไม่สอดคล้องกับการบริหารงานของประธาน กสทช. โดยเฉพาะกรณีการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. โดยยังคงมีอีก 5 คดี ดังนี้
1. คดีเพ่ง พ 5748 ลงวันที่ 22 ธ.ค.67 โดย “สรณ” ฟ้อง 4 กสทช. และสำนักข่าวอิสรา ในข้อหา ละเมิด ไขข่าว ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง จากกรณีที่ 4 กสทช. เผยแพร่ข้อมูลแถลงข่าวว่า “ไม่ได้ ขัดแย้งส่วนตัว 4 กสทช. แถลงร่วม ยก 6 พฤติกรรม “ปธ” ทำภารกิจบอร์ดฯ ติดขัด – งานไม่เดิน” ในช่องทางหน้าเว็บไซต์ของจำเลยที่ 5 (สำนักข่าวอิสรา) โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 20 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
2. คดีเพ่ง พ 5413/2567 ลง 6 ธ.ค.2567 โดย “ไตรรัตน์” ฟ้อง 4กสทช. ในข้อหา ละเมิด ไขข่าว จากกรณีที่ 4 กสทช. ไม่เลือก “ไตรรัตน์” เป็นเลขาธิการ กสทช. โดยเรียกค่าเสียหายจากการ (1) ไม่ได้รับเงินเดือนรวม 5 ปี เป็นเงิน 3,322,260 บาท (2.) ไม่ได้รับค่าตอบแทนรวม 5 ปี เป็นเงิน 3,00,000 บาท และ (3.) ไม่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสรยาภรณ์ ป.ช. เป็นเงิน 40,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ปัจจุบันศาลเพ่งได้จำหน่ายคดีโดยโอนคดีไปยังศาลปกครอง เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1722/2568
3. คดีอาญา อท 155/2566 ลง 11 ก.ย.2566 โดย “ไตรรัตน์” ฟ้อง 4 กสทช. ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ต่อกรณีที่ 4 กสทช.ลงมติเปลี่ยนรักษาการ เลขาธิการ กสทช. จากการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 600 ล้านบาท ที่เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศที่เกี่ยวข้องและมติที่ประชุม กสทช. ปัจจุบันศาลอาญาทุจริตฯ ได้มีคำพิพากษา “ยกฟ้อง” เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 แต่ “ไตรรัตน์” ได้ขอยื่นอุทธรณ์ต่อศาล
4. คดีอาญา อท 68/2568 ลง 4 เม.ย.2568 โดย “ไตรรัตน์” ฟ้อง 4 กสทช. ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ต่อกรณีที่ 4 กสทช.ลงมติไม่เห็นชอบให้โจทก์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ กสทช. ตามที่ประธาน กสทช. เสนอ และไม่รับอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองของโจทก์ ปัจจุบันศาลอาญาทุจริตฯได้มีคำพิพากษา “ยกฟ้อง” เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568
5. คดีปกครอง 1463/2567 ลง 8 ส.ค.2567 โดย “ไตรรัตน์” ฟ้อง 4 กสทช. โดยขอให้ศาลมีคำสั่ง เพิกถอน มติ กสทช. ที่มีมติไม่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ตามที่ประธาน กสทช. เสนอ และขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ เห็นชอบรายชื่อตามที่ประธาน กสทช.เสนอ (“ไตรรัตน์”) เป็นเลขาธิการ กสทช. ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
ผมขอยืนยันว่าสิ่งที่ผมได้ทำหน้าที่และให้ข้อคิดเห็นต่างๆ นั้น เป็นการดำเนินการและให้ข้อคิดเห็นตามอำนาจหน้าที่ในฐานะกรรมการ กสทช. โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดขององค์กร ประเทศชาติ หรือประชาชน เป็นสำคัญ มิได้มีปัญหาหรือข้อขัดแย้งส่วนตัวกับใครทั้งสิ้น


