กทม.จัดงานวันผู้สูงอายุสากล68 ชูบทบาทผู้สูงวัยสู่สังคมยั่งยืน
กทม.ชวนร่วมงานวันผู้สูงอายุสากล 2568 เปิดเวทีผู้สูงวัยถ่ายทอดภูมิปัญญา แสดงศักยภาพ และสร้างความเข้าใจระหว่างคนต่างรุ่น สู่สังคมยั่งยืน
กรุงเทพมหานครจับมือเครือข่ายภาคี จัดงาน วันผู้สูงอายุสากล ประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อ “บทบาทของผู้สูงอายุในการสร้างสังคมที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน” ในวันพุธที่ 1 ตุลาคม 2568 ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) ตั้งเป้าเปิดเวทีให้ผู้สูงอายุแสดงศักยภาพ ถ่ายทอดภูมิปัญญา และเชื่อมความเข้าใจระหว่างคนต่างวัย
ผู้สูงอายุ จากกลุ่มที่ต้องการการดูแล สู่พลังขับเคลื่อนสังคม
ผู้จัดงานเผยว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโลกที่กำลังก้าวสู่ “สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ” ทำให้บทบาทของผู้สูงอายุมีความสำคัญมากขึ้น องค์การสหประชาชาติคาดการณ์ว่า ภายในปี 2050 ประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปีจะมีสัดส่วนเกือบหนึ่งในห้าของประชากรโลก ซึ่งไม่เพียงท้าทายระบบเศรษฐกิจและสาธารณสุข แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนให้สังคมต้องปรับมุมมองใหม่ต่อผู้สูงอายุ
“ผู้สูงอายุไม่ใช่ภาระ แต่คือทรัพยากรที่ทรงคุณค่า พวกเขามีประสบการณ์และภูมิปัญญาที่สามารถถ่ายทอดให้คนรุ่นหลัง นำไปสู่สังคมที่สมดุลและมั่นคง”
ไฮไลต์กิจกรรม “เพลินวัย 4 เพลิน”
งานครั้งนี้จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ โดยแบ่งเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่
เพลินกาย-ใจ : ตรวจสุขภาพฟรี แนะนำการดูแลสุขภาพกายและใจ
เพลินชีวา : แนะนำสิทธิและสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ
เพลินทำ : เวทีแสดงผลงานและจำหน่ายสินค้าฝีมือผู้สูงวัย พร้อมฝึกอาชีพ
เพลินอารมณ์ : กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต บริการด้านกฎหมาย ตัดผมฟรี และการสาธิตสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ยังมีเวทีเสวนาเรื่อง “อายุยืน…อย่างมีความสุข” โดยผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสังคม รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรม ประกวด “ขวัญใจสูงวัยสุขภาพดี” และการขับร้องเพลงโดยนักร้องประสานเสียงและศิลปินรับเชิญ
เป้าหมายผู้ร่วมงานกว่า 1,000 คน
งานวันผู้สูงอายุสากล 2568 ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน โดยหวังให้เกิด “พื้นที่สาธารณะสำหรับผู้สูงอายุ” ที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงวัยได้แสดงออกและภาคภูมิใจในบทบาทของตนเอง ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างความเข้าใจและลดช่องว่างระหว่างวัย
ผู้จัดงานย้ำว่า การจัดงานในครั้งนี้ไม่เพียงสร้างรอยยิ้มและความสุขให้ผู้สูงอายุ แต่ยังมุ่งวางรากฐานต้นแบบของการจัดกิจกรรมที่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้สูงวัย พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนไปสู่สังคมที่ “ยืดหยุ่นและยั่งยืน” อย่างแท้จริง


