ทำความรู้จัก “ร่างพ.ร.บ.ตั๋วร่วม” VS “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”
ทำความรู้จัก “ร่างพ.ร.บ.ตั๋วร่วม” VS “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” เชื่อมโยงกันอย่างไร? ทำได้จริงหรือขายฝันประชาชน
“รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” จากนโยบายหาเสียงสู่การแก้ร่างกฎหมาย
นโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” เริ่มต้นจาก คำมั่นสัญญาของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศต่อประชาชนในการเลือกตั้งปี 2566 ว่าจะทำให้ระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล “สามารถนั่งได้ในราคาสูงสุดไม่เกิน 20 บาท ไม่ว่ากี่สาย”
เมื่อพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล นโยบายดังกล่าวจึงถูกบรรจุไว้ในเอกสารแถลงนโยบายต่อรัฐสภา อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ในนโยบายเร่งด่วนลำดับที่ 3 (หน้า 26 ของเอกสาร)
เพื่อทำให้นโยบายดังกล่าวเป็นจริง รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม และฝ่ายนิติบัญญัติ ได้ผลักดัน 2 ร่างกฎหมายสำคัญ ซึ่งมีเป้าหมายต่างกันแต่เกี่ยวข้องกัน คือ
1. ร่างพระราชบัญญัติระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ...
ผู้เสนอ: คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร
สถานะ: ผ่านการพิจารณารับหลักการแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นกรรมาธิกา
วัตถุประสงค์หลัก: วางโครงสร้าง “ระบบชำระค่าโดยสารร่วม” สำหรับรถไฟฟ้า รถเมล์ เรือ รถตู้ ฯลฯ
จัดตั้ง “คณะกรรมการตั๋วร่วม” เป็นหน่วยงานกลาง กำหนดมาตรฐานด้านระบบตั๋ว สร้างกลไกบริหารจัดการ “รายได้ร่วม” และ “ข้อมูลธุรกรรม” ระหว่างผู้ให้บริการเพื่อให้ผู้ประกอบการระบบขนส่งใช้ระบบตั๋วร่วมเดียวกัน จัดตั้งระบบ Clearing House แบ่งรายได้ข้ามหน่วยงาน แต่ยังไม่ได้กำหนดเรื่อง “อัตราค่าโดยสารสูงสุด” โดยตรง
แม้ระบบตั๋วร่วมจะเป็น “เครื่องมือเชิงระบบ” ที่จำเป็นต่อการเชื่อมค่าโดยสารจากหลายสายให้คิดรวมเป็นเที่ยวเดียวได้ แต่ ไม่สามารถกำหนดเพดานราคา 20 บาท ได้ด้วยตัวกฎหมายนี้
2. ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543
ผู้เสนอ: คณะรัฐมนตรีสถานะ: อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ
วัตถุประสงค์หลัก: แก้ไขให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีอำนาจในการจัดเก็บค่าโดยสารในรูปแบบ “ค่าโดยสารร่วม” (Common Fare) เปิดทางให้กำหนด “ค่าโดยสารเหมาจ่าย” (Flat Fare) ตามนโยบายรัฐ
จำเป็นต้องก้ มาตรา 7 และ 44 ของ พ.ร.บ.รฟม. ให้อำนาจรัฐมนตรีคมนาคมร่วมกับ รฟม.กำหนดอัตราค่าโดยสารภายใต้กรอบของ ครม. ใช้ได้เฉพาะระบบที่ รฟม.เป็นเจ้าของโครงสร้าง เช่น สายสีน้ำเงิน ม่วง เหลือง ชมพู ไม่ครอบคลุมสายสีเขียว หรือส่วนที่เอกชนถือสัมปทาน
แม้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว จะเป็น “เครื่องมือเชิงนโยบาย” ที่เปิดทางให้ลดราคาค่าโดยสารในสายของรัฐได้ทันที — แต่ ยังไม่แตะระบบสัมปทานของเอกชน เช่น BTS, BEM
สรุป
รัฐบาลได้เดินหน้าออกกฎหมายเพื่อ “สร้างโครงสร้างรองรับนโยบาย” แล้วจริง แต่ นโยบาย 20 บาทตลอดสายยังไม่เกิดขึ้นครบทุกระบบ เพราะขาดกลไกจัดการสัมปทานและข้อผูกพันของเอกชน หากไม่มีการตัดสินใจเชิงนโยบายเพิ่มเติม เช่น การเจรจา ลดสัมปทาน หรืออุดหนุนจากรัฐ
นโยบายนี้ยังอยู่ในสถานะ “บางส่วนทำได้ แต่ยังไม่จริงทุกสาย” สิ่งที่ทำได้ ด้วยการแก้กฎหมาย เช่น
- ตั้งระบบตั๋วร่วม ร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ยังไม่สามารถควบคุมราคาค่าโดยสารได้
- ลดราคาสายรัฐ แก้ พ.ร.บ.รฟม. ทำได้เฉพาะในสายของ รฟม.
- ต้องแก้สัมปทานหรือใช้นโยบายพิเศษ ลดราคาสายสีเขียว


