กทม. ยุติค้นหาผู้สูญหายอาคารสตง.ถล่ม เหลือ 7 รายรอยืนยัน

วันที่ 12 พ.ค. 2568 ที่กองอำนวยการร่วม ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  แถลงว่า วันนี้ (12 พ.ค.) การค้นหาผู้ติดค้างภายในซากอาคารดังกล่าวในวันนี้นั้นยุติทั้งหมดแล้ว และในเวลา 17.00 น. ในวันนี้ ทีมค้นหาและสุนัข K9 จะมีการเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง อีก 2 รอบ เนื่องจากหลังจากการสำรวจบริเวณกองซากปูนดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 พ.ค.พบชิ้นส่วนอวัยวะ 5 ชิ้น  ทำให้วันนี้ จึงต้องมีการตรวจสอบอีกเพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนด้านเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากจะมีการขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมดขนย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง  และในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค. 2568 ทีมค้นหาและสุนัข K9 จะมีการเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง อีกครั้งหรืออาจจะมีการการปรับเปลี่ยนเวลาตามความเหมาะสม

อย่างไรก็ตามในส่วนของกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ที่มีความสูงถึง 9 เมตร ซึ่งอาจมีความอันตราย โดยที่ประชุมมีความเห็นให้ลดถอนความสูงลดเหลือ 6 เมตร เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาชิ้นส่วนมนุษย์ที่ยังคงติดค้างอยู่

รศ.ทวิดา กล่าวว่า ด้านตัวเลขผู้ประสบเหตุมีทั้งหมด 109 ราย ซึ่งเป็นผู้บาดจ็บทั้งหมด 9 ราย และ 4 ราย เป็นผู้ที่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ  ส่วนผู้เสียชีวิตที่สามารถตรวจอัตลักษณ์ได้แล้วมีทั้งหมด 89 ราย ดังนั้นจึงยังเหลือผู้สูญหายเพียง 7 ราย แต่ขณะนี้มีชิ้นส่วนมนุษย์ที่ได้จากการค้นหาภายใต้ซากตึก สตง. อยู่ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ 296 ชิ้น ดังนั้น ผู้สูญหายทั้งหมด 7 ราย นี้คาดว่าจะอยู่ในส่วน 296 ชิ้นนี้

และในวันที่ 13 พ.ค. 2568 เวลา 07.00 น. จะมีการทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์สายกรรมฐาน จำนวน 109 รูป และพิธีสวดบำเพ็ญส่วนกุศลให้กับผู้สูญหาย  เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่บริเวณอาคาร สตง. โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นประธานพระสงฆ์ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทำบุญแล้ว  จากนั้นในเวลา 11.00 น. จะมีการประชุมหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่อีก 1 รอบ ในเรื่องการถอนกำลังและการส่งมอบคืนพื้นที่  โดยจะมีการระบุ เป็นลายลักษณ์อักษรในแต่ละจุด

รศ.ทวิดา กล่าวยืนยันว่า หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจได้มีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์สิ่งของต่างๆ จะคงเหลือไว้คือ รั้วที่สำนักการโยธาของกรุงเทพมหานคร ที่ล้อมเอาไว้ กับ กล้องวงจรปิด CCTV   ซึ่งตามเป้าหมายจะปิดภารกิจในวันที่ 15 พ.ค.นี้  ส่วนกรณี ญาติผู้สูญหาย ที่ยังพักอยู่ในศูนย์พักคอย ก็คงต้องปิด ขณะนี้ได้มีการประสานไปกับทางญาติผู้สูญหายที่เหลือ ว่าขณะนี้ผลการพิสูจน์ยืนยันอัตลักษณ์ตัวตนต่างๆ ทางนิติเวชฯ จะเป็นผู้รายงานและติดต่อทางญาติโดยตรง