"เอกนัฏ" ทลายโรงงานพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร มูลค่าของกลางกว่า 170 ล้าน
ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บพลาสติกรีไซเคิล เลขที่ 111/11 หมู่ 6 ตำบลยกกระบัตร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร พบข้อมูลทางทะเบียนว่า "บริษัท มหาโชค มหาชัย เทรดดิ้ง" เป็นผู้จดทะเบียนบ้านเลขที่ดังกล่าว และมีรายงานว่าบริษัทที่ปรากฏชื่ออยู่ในโกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้มีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียง
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการสุดซอย นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ และตรวจสอบการขออนุญาตประกอบกิจการ
รายงานจากชุดปฏิบัติการสุดซอยระบุว่า เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับตำรวจ บก.ปทส. ได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และบริษัทใกล้เคียงที่พบว่ามีความเกี่ยวพันกัน ได้แก่ บริษัท เอ็ม ซี ที รอยัล วูด จำกัด และบริษัท บีเค รีไซเคิล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตร
จากการตรวจค้นทั้งสองบริษัทและโกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ พบกองพลาสติกเปลือกหุ้มสายไฟจากต่างประเทศที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการหลอมเป็นเม็ดพลาสติกรวมกว่า 6,900 ตัน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 170 ล้านบาท
"ทีมสุดซอยเข้าตรวจค้นพบการเปลี่ยนแปลงจากบริษัท เอ็ม ซี ที รอยัล วูด จำกัด และบริษัท บีเค รีไซเคิล จำกัด เป็นบริษัท เถิงต๋า พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด และบริษัท ปวริศาแอสเสท จำกัด ภายในโรงงานพบการประกอบกิจการผิดประเภท มีการตั้งโรงงานบดย่อยหลอมพลาสติก เป็นการตั้งโรงงานและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ทราบที่มาของวัตถุดิบ" - นายเอกนัฏ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครจึงได้ออกคำสั่งตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน ให้โรงงานหยุดการกระทำที่ฝ่าฝืนทันที และจะออกหนังสือแจ้งเพิกถอนใบอนุญาต บริษัท เอ็ม ซี ที รอยัลวูด จำกัด และบริษัท บี.เค. รีไซเคิล จำกัด พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายกับทั้งสองบริษัท รวมทั้งเจ้าของที่ดินที่ตั้งโรงงาน ในข้อหาตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบผู้กระทำผิดเพิ่มเติม ก็จะดำเนินคดีร่วมกันกระทำผิดเพิ่มเติมจนถึงที่สุด