posttoday

'ศักดิ์ดา'รองอัยการสูงสุดแจงปมลวนลามอัยการหญิงยันถูกจัดฉาก

05 มีนาคม 2567

ศักดา ช่วงรังษี รองอัยการสูงสุด แจง14ข้อปมถูกพาดพิงคุกคามทางเพศอัยการหญิง ยันถูกจัดฉากดิสเครดิตเพราะสอบวินัยร้ายแรงอัยการชั้นผู้ใหญ่สั่งไม่ฟ้องคดีบุกรุกป่า 6พันไร่

KEY

POINTS

  • ศักดา ช่วงรังษี รองอัยการสูงสุด แจงปมถูกกล่าวหาลวนลามอัยการหญิง 
  • ยอมรับไปทานข้าวกับอัยการหญิงแต่ไม่มีอะไรเกินเลย 
  • เชื่อถูกจัดฉากดิสเครดิตปมสอบวินัยร้ายแรงบิีกอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีรุกป่า6พันไร่

 

นายศักดา ช่วงรังษี รองอัยการสูงสุด  ส่งเอกสารชี้เเจงในไลน์กลุ่มอัยการ ความยาว3หน้ากระดานเอ4 จำนวน 14ประเด็น กรณีถูกพาดพิงลวงละเมิดพนักงานอัยการสาวรายหนึ่ง ดังนี้

เรื่อง ชี้แจงกรณีที่เป็นข่าว
เรียน พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ชาวอัยการที่รักและเคารพทุกท่าน รวมทั้งท่านสื่อมวลชนที่เคารพทุกแขนง

ตามที่ได้มีข่าวปรากฎออกไปว่ามีรองอัยการสูงสุดปริศนาลวนลามอัยการหญิงจนเป็นข่าว แพร่หลายออกไปในวงกว้าง กระผมขอเรียนชี้แจงและขอตั้งข้อสังเกตให้ทุกท่านทราบ ดังนี้

1.ในองค์กรอัยการมีรองอัยการสูงสุดทั้งหมด 8คน กระผมเป็น 1 ในรองอัยการสูงสุด ที่มีบ้านอยู่ย่านรามคำแหง จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธได้ว่า รองอัยการสูงสุดคนดังกล่าวไม่ใช่กระผม

2.กระผมไปทานข้าวกับอัยการหญิงคนดังกล่าวที่ร้านอาหารตามข่าวจริง แต่ไม่มีอะไรเกินเลยตามที่ปรากฏในข่าว

3. ในการปฏิบัติหน้าที่ มีท่านอัยการหลายท่านมาพบผม อัยการหญิงในข่าวก็เป็นหนึ่งในท่านอัยการหลายๆ ท่านที่มาพบกระผม โดยมากกระผมก็มีน้ำใจพาไปรับประทานอาหารหลังจากที่ น้องๆ มาหาหรือมาพบ ซึ่งก็เป็นร้านอาหารละแวกบ้านตามปกติตามประสาคนรู้จัก คุ้นเคยเคยร่วมงานกัน เป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือแตกต่างไปจากท่านอัยการท่านอื่นๆ เหมือนมีมิตรสหายมาหา มาเยี่ยมเยียน กระผมในฐานะเจ้าของบ้านที่ดีก็ดูแลต้อนรับ ตามปกติ ดังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2567 ก็เช่นเดียวกัน

4. คณะกรรมการอัยการผู้มีหน้าที่พิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายมีมากมายหลายท่าน แต่ทำไม อัยการหญิงในข่าวจึงเลือกมาพบกระผม แสดงว่าท่านก็ต้องรู้จัก คุ้นเคยกับกระผมเป็นอย่างดี จึงกล้าที่จะเดินทางมาพบกระผมเพียงคนเดียว หากท่านกล่าวอ้างว่าถูกกระผมบังคับ ขอให้ทุกท่านลองพิจารณาดูว่า อัยการหญิงท่านนี้เป็นถึงอัยการ อายุ 37 ปีแล้ว ถือว่าเป็นผู้ใหญ่มากพอสมควร ควรมีความคิด มีวุฒิภาวะพอที่จะตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง ไม่ควรถูกใครบังคับ ชี้นำ หรือชักจูงได้โดยง่าย โดยเฉพาะการทำหน้าที่พนักงานอัยการ ซึ่งถือว่าเป็นทนาย ของแผ่นดิน หากถูกใครบังคับ ชี้นำ หรือชักจูงได้โดยง่าย ในการทำงานก็จะเกิดความเสียหายต่อประชาชน และประเทศชาติบ้านเมืองได้

5.กระผมมีความปรารถนาดีต่อท่านอัยการทุกท่าน และที่ผ่านมากระผมได้พยายามทำทุกทางเพื่อรักษาองค์กรอัยการที่เป็นบ้านที่ผมรักและภูมิใจให้กลับมามีความน่าเชื่อถือและมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ด้วยการปกป้องคนดีในองค์กรที่มีจำนวนมาก และกวาดขยะที่ซุกอยู่ใต้พรมของบ้านหลังนี้ออกมาตีแผ่ อันอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ที่ไม่หวังดีและจ้องทำลายความน่าเชื่อถือของกระผม

6.ในวันเกิดเหตุตามรายงานประจำวันที่ปรากฏ แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ก.พ.2567หากมีการลวนลาม หรือกระทำอนาจารจริง เหตุใดถึงไม่รีบแจ้งความดำเนินคดีกับกระผมในวันดังกล่าวหรือในวันรุ่งขึ้นซึ่งใกล้เคียงกัน เพื่อให้พนักงานสอบสวนจากท้องที่เกิดเหตุตรวจสอบพยานบุคคล สถานที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดว่ากระผมได้กระทำอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ ซึ่งกระผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่ลูกผู้หญิงต้องปกป้องสิทธิ เกียรติยศ ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของตนเอง ไม่ควรให้ใครมาลบหลู่ ดูหมิ่น หรือรังแกได้โดยง่าย

7.ในทางกลับกัน กลับปรากฎรายงานประจำวันดังกล่าวว่า มีการไปแจ้งความเมื่อวันที่ 23 ก.พ.2567ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งห่างไกลจากสถานที่เกิดเหตุเหลือเกิน หากมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง สถานีตำรวจที่ใกล้สถานที่เกิดเหตุที่สุด คือ สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง ถ้าหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับอัยการหญิงท่านดังกล่าวจริงควรแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยเร็วที่สุดใช่หรือไม่ ทำไมถึงนิ่งนอนใจปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน ล่วงเลยมาถึง 4-5วัน หลังจากเกิดเหตุ ยิ่งไปกว่านั้น 

ต่อมาหลังเกิดเหตุ วันที่ 20 ก.พ.2567 อัยการหญิงท่านนี้ก็ยังส่งข้อความทางโทรศัพท์มาพูดคุยกับกระผมตามปกติ เหมือนไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเป็นการผิดวิสัยของสุภาพสตรีที่ต้องการจะปกป้องเกียรติยศ หรือชื่อเสียงของตนเองหากถูกลวนลาม หรือถูกกระทำอนาจารจริง

9.สำหรับบุคคลที่นำรายงานประจำวันและเรื่องราวดังกล่าวไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชนและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆ ซึ่งเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาทำให้กระผมได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง เสื่อมเสียชื่อเสียง และเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด

10.ก่อนเหตุการณ์นี้ กระผมได้รับมอบหมายให้ทำคดีสำคัญ ตรวจสอบอำนาจการสั่งไม่ฟ้องคดีของอดีตอัยการสูงสุดท่านหนึ่งและตรวจสอบพบว่าการสั่งคดีของพนักงานอัยการชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน ไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง จนเป็นเหตุให้กระผมเสนอความเห็นต่ออัยการสูงสุดเห็นควรให้ดำเนินการทางวินัยร้ายแรงกับพนักงานอัยการชั้นผู้ใหญ่หลายท่านที่เกี่ยวข้องกับการสั่งไม่ฟ้องคดีบุกรุกป่า 6พันไร่เศษ เรื่องนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นการจัดฉาก เพื่อทำให้กระผมเสื่อมเสียชื่อเสียง ลดทอนความ น่าเชื่อถือในตัวกระผมหรือไม่

11.บางสำนักข่าว รายงานข่าวว่า กระผมไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอภิปรายคัดค้าน มติ ก.อ. ที่เห็นควรให้อัยการหญิงคนดังกล่าวย้ายไปประจำที่สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตตามคำขอ กระผมขอเรียนชี้แจงว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้ง (โต๊ะเล็ก)ครั้งก่อน กระผมได้อภิปรายและมีความเห็นไปแล้ว ว่าท่านไม่เหมาะสมอย่างไรเพราะเหตุผลอะไร จึงเชื่อว่าเป็นเหตุให้อัยการหญิงในข่าวไม่พอใจ โดยเป็นการนำมาสู่การไปแจ้งความกระผมในภายหลัง หลังจากทราบมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้ง (โต๊ะเล็ก)ตามที่กระผมเสนอแล้ว ในครั้งนี้เป็นการลงมติแบบลงคะแนนรายบุคคล ซึ่งกระผมมีเพียงเสียงเดียว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะไปทัดทานความเห็นของเสียงส่วนมากได้

12.ตามข่าวที่บางสำนักแจ้งว่า อัยการหญิงมาร้องขอความเป็นธรรมกรณีโยกย้ายไม่เป็นธรรม โดยไม่มีประเด็นตามข่าวกรณีที่กล่าวหาว่ากระผมกระทำอนาจาร จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าเพราะเหตุใดจึงไม่มีประเด็นดังกล่าว หากมีเรื่องเสื่อมเสียแบบนั้นจริง และต่อมาคณะกรรมการอัยการก็พิจารณาให้อัยการหญิงได้โยกย้ายตามคำขอ ถือเป็นเรื่องปกติ
ใช่หรือไม่ อย่างไร หรือมีบุคคลใดวางแผนให้อัยการหญิงแจ้งความกระผม ให้ผมเสื่อมเสียชื่อเสียง เพื่อแลกกับการได้ย้ายตามคำขอ

13.บางสำนักข่าว เสนอข่าวว่า กระผมตัดสายทิ้ง ต้องขอเรียนว่า กระผมไม่ทราบจริงๆว่าผู้ใดโทรมาบ้าง เกรงว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยซ้ำ กระผมต้องขออภัยเป็นอย่างสูงที่ไม่ได้รับสายเบอโทรฯ แปลกๆ ดังนั้น กระผมขอถือโอกาสชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านข้อความตามเอกสารฉบับนี้

14.ประการสุดท้าย มีบางสำนักข่าว ลงข่าวว่า กระผมมีสีหน้าเคร่งเครียด กระผมขอเรียนชี้แจงว่า จะให้กระผมทำหน้าตายิ้มแย้มได้อย่างไร กระผมรับราชการอัยการมากว่า 37ปี ไปทานข้าวกับอัยการมากหน้าหลายตา ทั้งผู้หญิงและผู้ชายนับครั้งไม่ถ้วน ไม่เคยมีข่าวเสื่อมเสียเลย เหตุใดเพิ่งจะมาเป็นข่าวหลังจากกระผมเป็นคณะทำงนคดีใหญ่คดีสำคัญคดีหนึ่ง และที่กระผมมีสีหน้าไม่สบายใจ เหตุเพราะว่าการแสดงความคิดเห็นของกระผมในที่ประชุม ก.อ. ควรเป็นความลับ เพื่อความเป็นมืออาชีพ ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายให้คุณให้โทษพนักงานอัยการ เหตุใดความเห็นของกระผมถึงหลุดรอดออกไปนอกห้องประชุมได้จนเป็นเหตุให้อัยการหญิงท่านดังกล่าวไม่พอใจ จึงเป็นที่มาของข่าวที่เกิดขึ้นนี้

\'ศักดิ์ดา\'รองอัยการสูงสุดแจงปมลวนลามอัยการหญิงยันถูกจัดฉาก

\'ศักดิ์ดา\'รองอัยการสูงสุดแจงปมลวนลามอัยการหญิงยันถูกจัดฉาก

\'ศักดิ์ดา\'รองอัยการสูงสุดแจงปมลวนลามอัยการหญิงยันถูกจัดฉาก