หุ้น"AOT" ดิ่ง หลังแตกพาร์

ราคาหุ้นบริษัทท่าอากาศยานไทยร่วง 0.96% สวนทางตลาด หลังลดราคาพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท

ราคาหุ้นบริษัทท่าอากาศยานไทย( AOT )ช่วงเช้าวันที่ 6 ก.พ.ดิ่ง0.96%  สวนทางดัชนีหุ้นที่เพิ่มขึ้น0.42% ผลจากการที่AOTลดพาร์จาก 10 บาทและจะซื้อขายที่ราคาพาร์ 1 บาทเร็วๆนี้

ราคาหุ้นAOT ปิดที่ 412 บาทลดลง 4 บาทหรือ ลดลง 0.96% สวนทางดัชนีหุ้นไทยที่ปิด 1,589.67 จุด เพิ่มขึ้น 6.72 จุดหรือ 0.42%ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อวันที่  3 ก.พ.2560 ทาง AOT ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงราคาพาร์จาก 10 บาทเป็น 1 บาทกับกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว ทำให้ขณะนี้มีจำนวนหุ้นเรียกชำระแล้วอยู่ที่ 14,285.7 ล้านหุ้น (ราคาพาร์ 1 บาท) คาดว่าจะซื้อขายที่ราคาพาร์ใหม่ในเร็วๆนี้ได้ฉุดราคาหุ้นลง 

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ดีบีเอสวิคเคอร์สวิเคราะห์ว่า  ผู้บริหาร AOT ให้แนวทาง ว่าในงวดปี2560 (สิ้นสุดเดือน ก.ย.2560) บริษัทคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเติบโตได้ 8-9%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.2559 จะมีจำนวนผู้โดยสารต่ำกว่าคาดเพราะมีเหตุการณ์บ้านเมืองและมีการจัดการทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ตั้งแต่ธ.ค.2559 เป็นต้นมาก็ดีขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวของรัฐบาลด้วย ทางด้านรายได้งวดปี 2560 (สิ้นสุดก.ย.2560) คาดว่าจะเติบโตเป็นเลข2หลักเพราะรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจการบินมีแนวโน้มขยายตัวดี พื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์ที่สนามบินดอนเมืองและภูเก็ตเพิ่มขึ้นหลังโครงการขยายแล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2559

นอกจากนั้นบริษัทเตรียมวางแผนแม่บทพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งหมดที่มีอยู่ โดยอาจถึงเอกชนมาร่วมทุนแบบ PPP ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2-ไตรมาส3 ปี 2560 ในช่วง 5 ปีนี้จะใช้เงินลงทุนสูงที่ประมาณ 1.5 แสนล้านบาทในการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 พร้อมอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 และรันเวย์ รวมทั้งการขยายท่าอากาศยานดอนเมืองเฟส 3 ซึ่งเงินลงทุนมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นหลัก โดยบริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานแข็งแกร่งปีละ 4.4-4.5หมื่นล้านบาท

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำซื้อ โดย ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 455 บาท (พาร์ 10 บาท) หรือ 45.50 บาท (พาร์ 1 บาท) ทั้งนี้คาดว่ากำไรสุทธิปี 2560 (สิ้นสุดก.ย.2560) จะเติบโต 15% ดีขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัว 4.5% และแนวโน้มระยะยาวไปได้ดี เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการสนามบินรายเดียวของไทยและกำลังขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้และกำไรในระยะยาว

ทั้งนี้ สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ถือว่าเป็นของผิดกฎหมายที่จะต้องนำมาทำลาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้บริโภค ว่าจะไม่มีสินค้าที่ไม่ได่มาตรฐานกลับเข้าสู่ท้องตลาด