posttoday

บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ เสนอขาย IPO จำนวน 109.30 ล้านหุ้น

29 กรกฎาคม 2564

บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ หรือ TFM เสนอขาย IPO จำนวน 109.30 ล้านหุ้น

นายบรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ TFM เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เศรษฐกิจและผู้นำในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำของคนไทย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยและเป็นบริษัทแกนนำ (Flagship) ในการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำของกลุ่มบมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU ผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลก

ทั้งนี้ TFM มีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักของบริษัทฯ ได้แก่ โปรฟีด (PROFEED) นานามิ (NANAMI) อีโก้ฟีด (EGOFEED) แอคควาฟีด (AQUAFEED) และดี-โกรว์ (D-GROW) เป็นต้น ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่

บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ เสนอขาย IPO จำนวน 109.30 ล้านหุ้น

(1) ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารกุ้ง โดย TFM เป็นหนึ่งในผู้นำในกลุ่มตลาดอาหารกุ้ง

(2) ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารปลา (รวมอาหารกบและอาหารปู) แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ (1) อาหารปลาทะเล เช่น อาหารปลากะพง และปลาเก๋า เป็นต้น (2) อาหารปลาน้ำจืด เช่น อาหารปลานิล และปลาดุก (3) อาหารสัตว์น้ำวัยอ่อน สำหรับการอนุบาลลูกปลา และ (4) อาหารกบ

(3) ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารสัตว์บก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ (1) อาหารสุกร (2) อาหารสัตว์ปีก ได้แก่ อาหารไก่ อาหารเป็ด และอาหารนกกระทา

บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ เสนอขาย IPO จำนวน 109.30 ล้านหุ้น

นายพิเชษฐ สิทธิอํานวย กรรมการผู้อํานวยการ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ (TFM) ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)

ปัจจุบัน TFM มีทุนจดทะเบียนจำนวน 1,000,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 500.0 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้วทั้งสิ้นจำนวน 820,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 410.0 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 109.3 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90.0 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) จำนวน 19.3 ล้านหุ้น รวมทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 21.9 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซียและปากีสถาน ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน